ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือระหว่างโรงเรียน สำนักงานเขต และศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ในการให้ความรู้เกี่ยวกับการคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและสร้างเครือข่ายความร่วมมือดูแลเด็กนักเรียน โดยในกรณีที่มีนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา หรือบุคลากรของโรงเรียน มีอาการไข้ขึ้น ปวดศีรษะและลำตัว ร่วมกับการไอต่อเนื่อง เจ็บคอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบให้ประสานและส่งต่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขทันที หากจำเป็นต้องปิดโรงเรียนให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษาโดยรายงานให้สำนักงานเขตและสำนักการศึกษาทราบ
นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ. ได้จัดประชุมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมจัดทำมาตรการคัดกรองเด็กป่วยและแนวทางในการทำความสะอาดสิ่ง ของที่ใช้ร่วมกันในโรงเรียนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาละลายผงซักฟอก หรือน้ำยาฟอกขาว และเน้นย้ำมาตรการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ขณะเดียวกันได้จัดทำอินโฟกราฟิก แผ่นพับ โปสเตอร์ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจการดูแลความสะอาดทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ให้แก่นักเรียน ครู และผู้ปกครอง รวมทั้งได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทั้ง 68 แห่ง ในการจัดหน่วยเคลื่อนที่ลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด กทม. เพื่อให้ทราบถึงการติดเชื้อ การแพร่เชื้อ การแพร่ระบาด และการป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 และหากมีอาการเข้าข่ายเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้แจ้งศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ทันที