นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มแบบครบวงจร (Total Real Estate Solutions) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 500ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 343 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,303 ล้านบาท ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น มาจากการทยอยส่งมอบโครงการในมืออย่างต่อเนื่องของธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
"จากการเติบโตของผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการบริหารของบริษัทฯ ที่มีความมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ไฮไรส์ และทาวน์โฮม ในแนวรถไฟฟ้า ตลอดจนพื้นที่บนทำเลศักยภาพ เพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่ม Real Demand อย่างแท้จริง จึงส่งผลให้โครงการของ ALL มีการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บริษัทมีรายได้รอการรับรู้ (Backlog) ในมือจำนวน 12 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 11,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 - 4 ปีอย่างต่อเนื่อง" ประกอบกับนโยบายมาตรการรัฐที่ปรับลดค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยการซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทนั้น บริษัทมีโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนเข้าข่ายมาตรการกระตุ้นที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงที่เป็นคนไทย ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาโครงการและกลยุทธ์ในการเจาะกลุ่ม Real Demand อย่างแท้จริงของออลล์ อินสไปร์ฯ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) กล่าวปิดท้ายว่า จากแผนการดำเนินงานและกลยุทธ์ที่บริษัทตั้งเป้าไว้ ALL จึงมั่นใจถึงอัตราการเติบโตผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ จะมีอัตราการเติบโตที่ระดับ 30 – 40% ต่อปี ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิจะเติบโตในทิศทางเดียวกันกับรายได้รวม โดยจะมาจากการทยอยส่งมอบยอด Backlog อย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้ายอดพรีเซลเพิ่มขึ้นในปีนี้ 7,000 ล้านบาท ซึ่ง ALL วางเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศในอนาคตอันใกล้นี้
พร้อมกันนี้ บริษัทประกาศจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานปี 2562 มูลค่ารวม 216 ล้านบาท คิดเป็น 0.3857 บาท ต่อหุ้น โดยแบ่งปันผลเป็นเงินสดมูลค่า 56 ล้านบาท คิดเป็น 0.10 บาท ต่อหุ้น และปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 3.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล มูลค่า 160 ล้านบาท คิดเป็น 0.2857 บาท ต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) 12.77% (คำนวณจากราคาปิดตลาด ณ วันที่ 25 ก.พ. 63) กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 5 พ.ค. 63 และกำหนดจ่ายวันที่ 22 พ.ค. 63