แม้ประเทศไทยและทั่วโลกจะเริ่มต้นปีได้ไม่ค่อยสวยนักเพราะเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 แต่ก็ไม่สามารถฉุดรั้งแผนงานเติบโตธุรกิจของ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทยที่ปีนี้เดินหน้าเปิดโรงแรมใหม่อีก 8 แห่งใน 4 ประเทศที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในระยะยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนห้องพักกว่า 2,000 ห้องและห้องสวีทเข้าพอร์ตโฟลิโอภายในสิ้นปีนี้ สอดคล้องกับแผนกลยุทธทางธุรกิจที่ต้องการก้าวสู่การเป็นหนึ่งใน 100 เครือโรงแรมชั้นนำของโลกในอีก 5 ปีหรือภายในปี 2568
นอกจากนี้เซ็นทารายังเตรียมเผยโฉมแบรนด์ใหม่ซึ่งมีความหรูหรามากที่สุดในบรรดาแบรนด์ของเซ็นทารา โดยแห่งแรก ณ ที่ตั้งโรงแรมซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อเดิมคือ เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย ซึ่งได้ปิดไปเมื่อกลางปีที่แล้วและอยู่ระหว่างการปรับปรุงและอัพเกรดครั้งยิ่งใหญ่เพื่อให้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบของรีสอร์ทที่หรูหราขึ้นอีกระดับโดยจะเปิดตัวภายใต้แบรนด์ใหม่ล่าสุด ช่วงปลายปีนี้
สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ที่จะเปิดให้บริการก่อนใครในเดือนเมษายนนี้ คือ เซ็นทรา บาย เซ็นทารา ชะอำ บีช รีสอร์ท หัวหิน ซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดชะอำ มีขนาด 190 ห้องพัก และห้องสวีท มีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมได้แก่ สวนสนุก สนามกอล์ฟ เอ้าท์เล็ท และพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นต้น
เซ็นทารายังเพิ่มโรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใครอีก 1 แห่งสำหรับจุดหมายในเมืองไทย และเป็นโรงแรมแบรนด์โคซี่แห่งที่ 3 ถัดจาก โรงแรมโคซี่ สมุย เฉวง บีช และ โคซี่ วงศ์อมาตย์ บีช เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักเดินทางที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและประเทศไทย ภายใต้ชื่อ โรงแรมโคซี่ กระบี่ อ่าวนาง บีช ขนาด 142 ห้องพักภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในปี 2563 นี้ ซึ่งเซ็นทาราจะเข้าไปปักธงเพิ่มอีก 2 ประเทศใหม่ ได้แก่ เซ็นทารา เคเอ็มเอ รีสอร์ท อินเล เลค รีสอร์ทแห่งแรกในเมียนมาร์ภายใต้แบรนด์ ซึ่งจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 2 ถัดมา คือ เซ็นทารา พลูมเมอเรีย รีสอร์ท ปากเซ รีสอร์ทแห่งแรกที่จะเบิกทางกลุ่มโรงแรมเซ็นทาราเข้าประเทศลาวอย่างเป็นทางการโดยกำหนดเปิดในปลายปี เซ็นทาราเน้นย้ำนำความเชี่ยวชาญระดับอินเตอร์เข้ามาบริหารที่พัก เสริมศักยภาพให้แหล่งท่องเที่ยวซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงพระบาง เมืองเวียงจันทน์ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองหลวงติดอันดับมรดกโลก
อีกหนึ่งโซนที่น่าจับตามองคือ ตะวันออกกลาง ซึ่งมีอีก 2 โรงแรมและรีสอร์ทกำลังเตรียมพร้อมเปิดห้องต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ เดอะบีพรีเมียร์ เซ็นทารา บูติกคอลเลกชัน กาตาร์ ขนาด 85 ห้องที่มีกำหนดเปิดตัวช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ นอกจากนี้เซ็นทารายังเตรียมต่อยอดนำความสำเร็จของรีสอร์ทสไตล์ครอบครัวจาก เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีชรีสอร์ท พัทยา สู่เมืองท่องเที่ยวสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลางภายใต้ชื่อ เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ ขนาดใหญ่ถึง 607 ห้องพักและห้องแบบสวีท ที่จะมีกิจกรรมรองรับทุกคนทุกวัยในครอบครัว อาทิ สปาเซ็นวารี เลซี่ริเวอร์ สายน้ำไหลเอื่อยให้การพักผ่อนแบบเอ้าท์ดอร์เป็นไปแบบสบายๆไม่ต้องเร่งรีบ สไลเดอร์หลากหลายขนาดสำหรับเด็กๆและผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบความเร็ว หน้าผาจำลองเสริมสร้างความตื่นเต้นขึ้นอีกระดับ ห้องอาหารหลายห้องที่เซ็นทาราให้ความสำคัญอย่างมากกับความสะอาดและรสชาติที่ยอดเยี่ยมแฝงความเป็นไทย คิดส์คลับ และสปาสำหรับเด็กแห่งแรกที่ตกแต่งในธีมขนมหวาน
นอกจากการเดินหน้าสรรหาและเปิดโรงแรมใหม่ๆในไทยและต่างประเทศแล้ว เซ็นทารายังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่โดดเด่นให้แก่นักเดินทาง ได้แก่ โปรแกรม Staying Well สำหรับผู้เดินทางที่รักสุขภาพ และ Meetings Redesigned บริการการประชุมที่แตกต่างเพื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจ
เซ็นทารายังชูจุดยืนด้านการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการเลิกใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง อาทิ หลอดน้ำดื่ม ถุง ขวดพลาสติก ภาชนะบรรจุอาหาร การลดปริมาณขยะจากอาหารเหลือ การสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น ชุมชนห่างไกล และจากผู้ผลิตที่คำนึงถึงความยั่งยืนเช่นกัน เป็นต้น
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ได้ที่ www.centarahotelsresorts.com