24 หน่วยงานภายใต้คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ขานรับแผนปฏิบัติการการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2563 -2565 พร้อมหนุนเสริมชุมชนในทุกมิติ

ศุกร์ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๐๙:๐๐
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. หน่วยงานหลักในการประสาน ส่งเสริม สนับสนุน การ พัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย นำโดย นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและ กีฬา และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการ อพท. ได้จัดกิจกรรม การส่งมอบแผนปฏิบัติการการ ท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2563-2565 ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพภาคเครือข่ายการ ท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อส่งมอบแผนปฏิบัติการฯ ให้กับผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ในคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชนนำไปบูรณาการการทำงานร่วมกัน ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “การ ท่องเที่ยวโดยชุมชนของไทยพัฒนาสู่สากลอย่างมีเอกภาพ ยกระดับ มาตรฐานบนฐานการรักษา และ จัดการทรัพยากรชุมชนอย่างสร้างสรรค์สู่ชุมชนแห่งความสุขและยั่งยืน”

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการ อพท. ได้กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้วา “แผนปฏิบัติการการ ท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนฉบับนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินการทบทวนแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดย ชุมชนอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2559 – 2563 (CBT Thailand) ซึ่งแผนฯ ดังกล่าวเกิดมาจากผลสำเร็จอย่างเป็น รูปธรรมในการพัฒนาต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน จำนวน 14 ชุมชนในพื้นที่พิเศษ โดย อพท. ได้ ดำเนินการพัฒนาศักยภาพชุมชนต้นแบบร่วมกับคณะกรรมการรับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่ง ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ มีการบริหารจัดการโดยคนในชุมชน และเกิดการสร้างรายได้และกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง” รัฐบาล เห็นความสำคัญและมอบนโยบายในการขยายผลการพัฒนาและการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยมุ่ง เป้าหมายสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

หลักการการทบทวนแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2563 – 2565 แผน นี้ จัดทำขึ้นภายใต้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยการสัมภาษณ์ และจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น รวมถึงเวทีผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยว จากผลการประชุม คณะ ที่ประชุมได้ ปรับเปลี่ยนชื่อแผนเป็นแผนปฏิบัติการการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน เป็นแผนระดับ 3 และเพิ่มเติมความ เชื่อมโยงและสอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนทุกระดับ เพื่อผลสัมฤทธิ์ตอบเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นเอกภาพ ในทิศทางเดียวกันของ 24 หน่วยงานภายใต้คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาค การศึกษาและองค์กรชุมชน จากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเป็น ผู้ดำเนินการทบทวนแผนฯ

แผนปฏิบัติการการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่ งยืน พ.ศ. 2563 – 2565 มีแนวคิดหลักในการ พัฒนาตามองค์ประกอบ 4 ประการ ได้แก่

แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทยมีมาตรฐาน และมีคุณภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว ได้ รวมทั้งเป็นต้นแบบในการเรียนรู้ ด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนทั้งในและต่างประเทศยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยการเพิ่มคุณค่า มูลค่าเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม และการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ในทุกระดับส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม บนฐานเศรษฐกิจพอเพียงนำไปสู่ ชุมชนแห่งความสุขอย่างยั่งยืน

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานการส่งมอบแผนปฏิบัติการ การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน พ.ศ.2563-2565 กล่าวว่า “แผนปฏิบัติการการท่องเที่ยวโดยชุมชน อย่างยั่งยืน ปี พ.ศ.2563-2565 เป็นเป้าหมายที่หน่วยงานในคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ร่วมกันกำหนด และวางกรอบการทำงานเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการ ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยบูรณาการภาคีทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อน เชื่อมโยงการทำงาน ร่วมกันทั้งห่วงโซ่ คุณค่าการท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและได้รับผลประโยชน์จากการ ท่องเที่ยวโดยตรง ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล พัฒนาชุมชนฐานรากของประเทศให้มีศักยภาพในการจัดการและ ดูแลทรัพยากรท้องถิ่นของชุมชนบนฐานการพึ่งพาตนเอง ความพอเพียงและยั่ งยืน นำไปสู่เป้าหมายการ อนุรักษ์อัตลักษณ์วิถีวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติ สร้างโอกาสการมีงานทำ สร้างรายได้และกระจาย รายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย