ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า ปี 2563นี้ อ.ส.ค. ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและรองรับสถานการณ์แข่งขันในอุตสาหกรรมนมที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ด้วยการเร่งปั้นสร้างสมาร์ทเอเย่นนมไทย-เดนมาร์ค (Smart Agent) หรือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อพัฒนาทีมตลาด อ.ส.ค. ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันตลาดภายในประเทศ และทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค เติบโตขึ้นได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยมั่นใจว่าภายในปี 2563 นี้ อ.ส.ค. จะสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 11,130 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ ล่าสุดอ.ส.ค. ได้จัดโครงการอบรมเสริมเขี้ยวเล็บให้กับสมาร์ทเอเย่นต์รายใหม่ปี 2563 เพื่อยกระดับการทำงานของเอเย่นต์ด้านการกระจายสินค้า การนำเสนอสินค้าใหม่ให้กับผู้บริโภค และส่งเสริมให้เกิดจริยธรรมทางการค้า รวมทั้งเป็นฐานข้อมูลทางการตลาดในการนำมาวางแผนทางการตลาดในอนาคต โดยปีนี้อ.ส.ค.ได้ปั้นเอเย่นต์จำนวน 11 ราย ซึ่งอ.ส.ค.ได้จัดอบรมความรู้ในการใช้แอพพลิเคชั่น sales tool และโปรแกรมสมาร์ทเอเย่นจากสถาบันและบริษัทผู้เชี่ยวชาญให้สมาร์ทเอเย่นต์ประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยดร.ณรงค์ฤทธิ์ ยังตอกย้ำบทบาทของสมาร์ทเอเย่นต์นมไทย-เดนมาร์คด้วยว่า จะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับสินค้าแบรนด์ไทย-เดนมาร์คในตลาดนมพาณิชย์ โดยเฉพาะการขยายช่องทางตลาดในธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) หรือร้านโชว์ห่วย ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง และบางส่วนของภาคกลางซึ่งสามารถที่จะขยายตลาดได้อีกมาก คาดว่าทีมสมาร์ทเอเย่นนมไทย-เดนมาร์คจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยรักษาและเพิ่มสัดส่วนยอดขายในช่องทาง Traditional Trade ได้มากขึ้น โดยในปี 2563นี้อ.ส.คได้ตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในช่องทาง Traditional Trade ไว้ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ขณะที่ช่องทางตลาดโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) มีเป้าหมายประมาณ 4,300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นอกจากกลยุทธ์ทางการตลาดดังกล่าวแล้ว อ.ส.ค. ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพ High value ส่งเสริมการขายแบบขั้นบันได ส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม พร้อมจัดกิจกรรมกองโชว์/หัวชั้นและชงชิม จัดทำของพรีเมียมและประชาสัมพันธ์แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค เป็นต้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดในธุรกิจตลาดดั้งเดิมกับตลาดโมเดิร์นเทรดเป็น 50:50 ภายในปี 2564 รวมทั้งมีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายชนิด อาทิ โยเกิร์ตพร้อมดื่มปราศจากไขมันยูเอชที กลิ่นเสาวรส ผสมบุก (ตราไทย-เดนมาร์ค ชิวดี) และผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด ภายใต้ตราสินค้า ไทย-เดนมาร์ค