ก.เกษตรฯ สืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านการเกษตร จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนโครงการให้เกิดความยั่งยืน

จันทร์ ๐๒ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๐:๑๓
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนบูรณาการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านการเกษตร ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 - 29 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องพึ่งบุญฯ อาคารวิสัยทัศน์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จัดการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนบูรณาการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการเกษตร เพื่อให้ส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบและเข้าใจแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกทั้งสร้างความเชื่อมโยงเครือข่ายในการติดตามโครงการฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายอนันต์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา มีแผนงานโครงการตามพระราชดำริภายใต้กระทรวงเกษตรฯ มากกว่า 3,500 โครงการ ซึ่งเป็นการพัฒนาด้านแหล่งน้ำกว่า 3,000 โครงการ และงานพัฒนาด้านการเกษตรและการส่งเสริมอาชีพกว่า 500 โครงการ โดยการสัมมนาครั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มุ่งขยายผลการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวพระราชดำริให้สามารถนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น เพราะภาคเกษตรสามารถรองรับวิกฤตการณ์ทางด้านเศรษฐกิจได้ดี จะเห็นได้จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ หรือผลกระทบไวรัสโควิด-19 ที่อาจกระทบต่อพนักงานหรือแรงงานจากภาคธุรกิจหลายแห่งต้องกลับสู่ภูมิลำเนาไปประกอบอาชีพด้านเกษตร นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังนำนโยบาย Eat Thai First เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารไทย สินค้าเกษตรไทยให้ยืนหนึ่ง อันเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนตามแนวพระราชดำริในการพัฒนาภาคเกษตรไทยร่วมกัน

ด้านนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมว่า สศก. ได้ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) จัดงานงานครั้งนี้ขึ้น ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้สนองงานพระราชดำริมาถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ทั้งเลขาธิการ กปร. (นายดนุชา สินธวานนท์) รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา (นายอภิชาต จงสกุล) และปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ดร.ปรเมธี วิมลศิริ) มาร่วมอภิปราย

ทั้งนี้ สศก. ได้รับมอบหมายให้ติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลแนวทางประกอบการขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถเป็นต้นแบบขยายผลไปในชุมชนใกล้เคียงและพื้นที่อื่น ๆ ต่อเนื่อง เช่น โครงการเกษตรวิชญา โครงการศูนย์ภูฟ้าฯ โครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาฯ เป็นต้น นอกจากนี้ สศก. จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในมิติต่าง ๆ เช่น รายละเอียดโครงการ ผลการติดตามและประเมินผลโครงการเข้าเป็นส่วนหนึ่งใน Big Data ด้านการเกษตรของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนโครงการต่อไป การสัมมนาครั้งนี้ จึงเป็นอีกเวทีสำคัญที่ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ทำให้ทุกหน่วยงานได้รับความรู้ ความเข้าใจถึงแนวทางในการขับเคลื่อนหลากหลายมิติ และรับทราบกรอบแนวทางในการติดตามโครงการฯ อันจะก่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติงานเกิดผลสัมฤทธิ์ ขยายผลไปสู่พื้นที่อื่น ๆ อย่างกว้างขวาง และส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ในทุกมิติของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ