นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดประจำปี 2562 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ) บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 3,607.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 380.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.78 มีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 97.03 ของรายได้รวม และปรับเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 393.63 ล้านบาท จากยอดขายของกลุ่มสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์และยอดขายของกลุ่มสมาร์ทโฟนที่เติบโตอย่างโดดเด่นขึ้น และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 77.55 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 4.87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.91 มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 14.77 และอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 2.15 มีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายเกี่ยวเนื่องกับการเปิดสาขาใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตและการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการไตรมาส 4/2562 โดดเด่นสุด มีรายได้รวม 1,360.35 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 33 และมีกำไรสุทธิ 41.54 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 44.09
ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจำนวน 42 สาขา ประกอบด้วย ร้าน .life (ดอทไลฟ์) จำนวน 21 สาขาร้าน Apple Brand Shop จำนวน 15 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwired จำนวน 13 สาขา U-store by copperwired จำนวน 1 สาขาและ Ai_จำนวน 1 สาขา)และศูนย์บริการ iServeจำนวน 6 สาขา จาก ณ สิ้นปี 2561 มีจำนวน 39 สาขา
“ในปี 2562 ที่ผ่านมา CPW มีการเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง จำนวน 6 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต และเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสจาก 5G และสินค้าเทคโนโลยีด้าน IoT และอื่นๆ ที่บริษัทฯ มุ่งขยายผ่านร้าน .life (ดอทไลฟ์) โดยมีการเปิดสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัย เนื่องจากยอดขายสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์มีอัตรากำไรที่ดีเมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่น ประกอบกับ บริษัทย่อย บริษัท โคแอน จำกัด (KOAN) เพิ่มความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กร ทำให้ CPW เป็นผู้นำธุรกิจสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่มีช่องทางจำหน่ายครอบคลุม มีจุดเด่นในเรื่องความหลากหลายของสินค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดตัวสินค้ากลุ่ม Apple โดยเฉพาะ iPhone 11 สนับสนุนร้าน Apple Brand Shop และขยายช่องทางในร้าน .life ทำให้มียอดขายคึกคักในไตรมาส 4/2563 ที่ผ่านมา เป็นไฮซีซั่นธุรกิจ มียอดขายเติบโตทำสถิติสูงสุดรายไตรมาส” นายปรเมศร์ กล่าว
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากผลการดำเนินงานงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ในอัตรา 0.080 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.021 บาทต่อหุ้น เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคงเหลือเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลังนี้ในอัตรา 0.059 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 12 มีนาคม 2563 รายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 13 มีนาคม 2563 วันที่จ่ายปันผล 20 พฤษภาคม 2563 นับเป็นการจ่ายปันผลทันทีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจและเชื่อมั่นบริษัทฯ
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2563 ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง รับโอกาสจากดีมานด์ของสินค้าเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของลูกค้ายุคใหม่ โดยขยายฐานลูกค้าระดับกลาง – บน ต่อเนื่อง และมีแผนขยายสาขาปีนี้เพิ่มอีก 6 สาขา ได้แก่ ร้าน .life และร้าน Apple Brand Shop