นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) กล่าวถึง ผลประกอบการไตรมาส 4/2562 มีรายได้รวม 330.13 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 32.18 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเทียบกับไตรมาส 4/2561 ที่มี 18.45 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 74.42 % เหนือกว่าที่คาดหมาย
“ตามที่ผมและทีมบริหารประเมินว่าไตรมาส 4/2562 ผลประกอบการของบริษัทจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ ซึ่งกำไรสุทธิโตถึง 70% ถือว่าเป็นที่น่าพอใจมากเราจะเห็นภาพเช่นนี้ต่อเนื่องในปี 2563 และคาดว่ารายได้ทั้งปีจะโตได้ 20% และพยายามให้มาร์จิ้นอยู่ที่ 21-23%” นายปรินทร์ธรณ์กล่าว
ทั้งนี้ SFLEX ได้เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มบริโภคมากขึ้น โดยกลุ่มผู้ผลิตถุงข้าวสารระดับประเทศ นอกจากนี้ได้แตกไลน์ผลิตซองฟิล์มบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กแบบมีฝาปิด (ซาเช่) เพื่อขยายฐานลูกค้าและช่องทางสร้างรายได้นั้นคาดว่าจะสามารถผลิตได้ในปี 2563 ตามแผนเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนยอดขายหลักมาจากกลุ่มบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค คิดเป็นสัดส่วน 80-85% ของรายได้จากการขาย ขณะที่ บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคมียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 15-20% โดยมีโอกาสขยายตลาดสินค้าบริโภคได้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงคำนึงถึงผู้ถือหุ้นเป็นหลัก โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นสมควรนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ให้พิจารณาจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 61.50 ล้านบาท โดยจ่ายจากเงินกำไรของบริษัทจากผลประกอบการสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล(Record Date) วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 และจ่ายปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 โดยจะจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 28 เม.ย. 2563