นางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ IRC ซึ่งเป็นยางรถจักรยานยนต์ระดับแนวหน้าของภูมิภาคและผู้นำด้านธุรกิจผลิตภัณฑ์อีลาสโตเมอร์ และชิ้นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมทั่วไป เปิดเผยว่า บริษัทตระหนักอยู่เสมอว่าการตอบแทนสังคมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้การดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการสร้างสังคมให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ดังนั้นในวาระที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจในไทยยาวนานกว่า 50 ปี จึงเปิด “โครงการ 50 ปี 50 สนาม Vi-pafe” โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ยางปูพื้นคุณภาพสูง Vi-pafe ของบริษัทฯ และยางพารา มาใช้ปรับปรุงพื้นลานกีฬาเอนกประสงค์เพื่อมอบให้แก่ชุมโรงเรียน หรือชุมชน จำนวน 50 แห่งใน ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อสนับสนุนกิจกรรมชุมชน ส่งเสริมสุขภาพ และการพัฒนาด้านการกีฬา ตลอดจนสนับสนุนการเพิ่มปริมาณการใช้และเพิ่มมูลค่ายางพาราในประเทศ
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ทำการส่งมอบลานกีฬาเอนกประสงค์ และสวนสุขภาพ ตามโครงการ 50 ปี 50 สนาม Vi-pafe ในจังหวัดแรก ณ ที่ว่าการอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง เพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับดำเนินกิจกรรมนันทนาการหรือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่างๆของชุมชนสหกรณ์คลองปาง และชุมชนโดยรอบ ก่อนที่จะขยายโครงการไปจนครบ 50 แห่งทั่วประเทศ
นางพิมพ์ใจ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ยางปูพื้น Vi-pafe ที่จะใช้ปูพื้นสนามตามโครงการดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยคิดค้นกระบวนการผลิต จนเกิดเป็นนวัตกรรมยางปูพื้นคุณภาพสูงและ ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น ปูพื้นสนามกีฬา โรงยิม หรือสวนหน้าบ้าน ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีเพราะมีความยืดหยุ่นสูง ป้องกันการลื่น สามารถลดความเสี่ยงการบาดเจ็บจากการหกล้ม ดูแลรักษาง่ายด้วยการออกแบบลักษณะของ แผ่นยางให้น้ำสามารถซึมผ่านได้ง่าย มีอายุการใช้งานนาน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะปลอดภัยจากสารโลหะหนักตามข้อกำหนดความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ RoHS (Restriction of Hazardous Substances) ของสหภาพยุโรป
“เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งมอบ โครงการ 50 ปี IRC 50 สนาม Vi-pafe ซึ่งเกิดขึ้นจากเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของไอ อาร์ ซี ที่ต้องการแบ่งปันความสุข และมอบสุขภาพดี ห่างไกลโรคให้แก่ชุมชน ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากยางพารามาใช้ในโครงการ เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคม และเพิ่มปริมาณการใช้และเพิ่มมูลค่ายางพารา ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ” นางพิมพ์ใจกล่าว