โรบินสัน ชูกลยุทธ์ Contactless Payment ลดการสัมผัสเงินสด และบัตรเครดิต ตอบรับ Cashless Society ห่างไกลโควิด-19 คาดลูกค้าหันมาช้อปไร้เงินสดเพิ่มมากขึ้น พร้อมสร้างความมั่นใจกับมาตรการคุมเข้ม 50 สาขา ทั่วประเทศ

จันทร์ ๐๙ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๕๔
นายอนุชิต สรรพอาษา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรบินสัน เดินหน้าป้องกัน และสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการชูกลยุทธ์ 'Contactless Payment’ ที่จะเป็นหัวหอกสำคัญในการรณรงค์เชิญชวนลูกค้าหันมาลดการสัมผัส - จับต้องเงินสด หรือบัตรเครดิต เพื่อป้องกันการรับเชื้อไวรัสดังกล่าวอีกหนึ่งทาง โดยลูกค้าสามารถจับจ่ายผ่าน E-payment ทั้งระบบ Dolfin, Samsung Pay และ Alipay ในห้างสรรพสินค้า รวมทั้งร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้าก็จะมี QR Code ให้ลูกค้าเลือกชำระเงินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งนี้นอกจากเป็นการป้องกัน และความมั่นใจแก่ลูกค้าแล้ว ยังเป็นการรองรับไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมยุค Cashless Society อีกด้วย ซึ่งเรามั่นใจว่าหลังจากนี้ลูกค้าจะหันมาใช้จ่ายผ่าน e-Payment มากขึ้น จากปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องของความสะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการป้องกันตัวเองจากการรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีทางหนึ่ง ทั้งนี้ โรบินสัน ยังมีการทำโปรโมชั่นร่วมกับ Dolfin เมื่อช้อปตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไป และชำระเงินผ่าน Dolfin ที่โรบินสัน รับเงินคืน 100 บาท (จำกัด 1 สิทธิ/ท่าน/เดือน สูงสุด 5,000 สิทธิ/เดือน) ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2563

พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่นิยมการข้อปออนไลน์ด้วย Robinson Shop Online ช้อปสินค้าแบรนด์ชั้นนำได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมงที่ www.robinson.co.th หรือสะดวกมากขึ้นด้วยการบริการสั่งสินค้าผ่าน Robinson Online และบริการ Robinson Chat & Shop ช้อปกับพนักงานที่รอให้บริการช่วยหาสินค้า เพียงทักแชต ช็อปสินค้า จากนั้นก็รอรับสินค้าที่บ้านได้เลย หรือสามารถเลือกรับสินค้าได้ที่โรบินสันกับบริการ Click & Collect

นอกจากนี้ โรบินสัน ยังมีมาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องดังนี้ 1.) เพิ่มจุดติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อล้างมือในจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น 2.) เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย โดยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ทุก 2 ชั่วโมง 3.) ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในลิฟท์โดยสาร และห้องลองเสื้อผ้า ทุก 2 ชั่วโมง 4.) เติมสบู่เหลว และกระดาษชำระในห้องน้ำอย่างเพียงพอตลอดเวลา 5.) ในส่วนห้างสรรพสินค้า (โดยเฉพาะแผนกสินค้าแม่และเด็ก) ให้เพิ่มมาตรการในการทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทุก 2 ชั่วโมง 6.) แผนกฟู้ดคอร์ท ให้รักษามาตรการดูแลความสะอาดอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำกับทุกร้านค้า คุมเข้มมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ใช้เครื่องล้างจาน ที่มีระบบไอน้ำอุณหภูมิสูงและผสมน้ำยาฆ่าเชื้อในการล้างจานชามอยู่แล้ว และทำความสะอาดบัตรฟู้ดคอร์ด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนนำไปใช้ใหม่ 7.) ให้ดำเนินการ คัดแยกผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดและมาใช้บริการห้องพยาบาล ออกจากผู้ป่วยอื่นๆ และ 8.) เพิ่มการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เข้าไปในระบบปรับอากาศ ภายในห้างฯ และศูนย์การค้าฯ เพื่อจับมือกันผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO