นายประภัตรกล่าวว่าหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นปรัชญาที่เหมาะสำหรับครอบครัวชุมชนและระดับประเทศด้วยการยึดหลักทางสายกลางในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจหากนำมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องจะส่งผลดีอย่างไรก็ตามสถานการณ์ด้านการเกษตรในปัจจุบันเกิดปัญหาเช่นภัยแล้งฝนทิ้งช่วงทำให้ขาดแคลนน้ำจึงต้องนำอาชีพปศุสัตว์มาเป็นอาชีพทางเลือกเพื่อสร้างรายได้เนื่องจากปศุสัตว์เป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาดีมีตลาดรองรับครม. จึงได้อนุมัติโครงการสินเชื่อให้ธ.ก.ส. ในวงเงิน 50,000 ล้านปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยล้านละหนึ่งร้อยบาทต่อปีให้กับเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือให้สามารถประกอบอาชีพสร้างอาชีพทางเลือกใหม่
“กระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทุกพื้นที่ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการซึ่งมีอาชีพทางเลือกหลากหลาย ทั้ง เลี้ยงโคขุน ไก่ หมู แพะ-แกะ ตลอดจนด้านประมง และการปลูกพืชใช้น้ำน้อย นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ส่งเสริมเกษตรกรให้เลี้ยงไก่พื้นบ้านและไก่สวยงามควบคู่กันไป สร้างรายได้ มีราคาดี อีกทั้งในพื้นที่เขตมีนบุรีมีผู้นับถือศาสนาอิสลามอยู่มาก จึงควรส่งเสริมให้เลี้ยงแพะอีกทางหนึ่ง” นายประภัตร กล่าว
ทั้งนี้ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกร และเยาวชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจทั้งด้านปศุสัตว์ และเกษตร ได้ใช้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว โดยได้มีการจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในด้านต่างๆ ในพื้นที่ 6 ไร่ ซึ่งการจัดประกวด “มหกรรมสีสัน ไก่สวยงามมีนบุรี” เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ กรมประมง ตลอดจน กรุงเทพมหานคร สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย มูลนิธิคนรักเมืองมีน มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร amazing ไทยเท่ เป็นต้น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค. 63 โดยจัดกิจกรรมประกวดไก่ 4 ประเภท ได้แก่1.ไก่เหลืองหางขาว 2.ไก่ประดู่หางดำ 3.ไก่เพศผู้คละสี และ 4.ไก่แม่พันธุ์ พร้อมทั้งมีนิทรรศการให้ความรู้ในด้านต่างๆ ทั้ง ไก่สวยงาม กระบือ ประมง เป็นต้น