นอกจากนี้ถังอบถ่านแนวตั้งโดยทั่วไปเป็นถังขนาด 200 ลิตร หุ้มฉนวนกันความร้อน มีปล่องตรงกลางสำหรับให้ความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้วิ่งผ่าน และมีท่อสำหรับนำควันไฟที่เกิดจากการเผากลับไปยังห้องเผาไหม้ เป็นการทำให้ไม้กลายเป็นถ่านด้วยการใช้ความร้อนไล่ความชื้นเนื้อไม้ในเตาเผา เรียกว่า “กระบวนการคาร์บอนไนเซชัน” เนื่องจากเป็นระบบปิด จึงไม่มีการลุกติดไฟของเนื้อไม้ ถ่านที่ได้มีคุณภาพสูง ขี้เถ้าน้อย แต่ผลิตน้ำส้มควันไม้ไม่ได้เนื่องจากควันถูกเผาไหม้หมด
ด้วยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำภูมิปัญญาเตาอบถ่านของเกษตรกรมาพัฒนาต่อยอดด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้เป็นนวัตกรรม “ถังอบถ่านแนวตั้งประสิทธิภาพสูง”
โดยถังอบประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยถัง 2 ชั้นแนวตั้ง ขนาด 200 ลิตร ชั้นนอกใส่เชื้อเพลิง ชั้นในใส่เศษวัสดุ มีฝาปิดมิดชิดและปล่องควันสูงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ติดตั้งเครื่องบันทึกอุณหภูมิภายในถังและปากปล่อง เพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระหว่างการเผา พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมวัดอุณหภูมิ KU Furnace Ind ที่ทำงานภายใต้ application “Blynk” เพื่อตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิการเผา (Real Time)
ข้อดีของถังอบถ่านแนวตั้งประสิทธิภาพสูง
ปลอดภัย และทุ่นแรงผู้ปฏิบัติงานอุณหภูมิในเตาเผาสูงกว่า 425oC สามารถกำจัดน้ำมันดิน (Tar) ในถ่านได้ ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเมื่อนำถ่านไปหุงต้ม ปิ้ง ย่างถ่านดูดกลิ่นที่ได้มีคุณสมบัติถ่านกัมมันต์ถ่านดูดกลิ่นที่ได้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน
คุณสมบัติถ่านที่ได้จากถังอบถ่านประสิทธิภาพสูง
นำไฟฟ้าได้ มีคุณสมบัติเป็นถ่านกัมมันต์ซึ่งมีความสามารถในการดูดซับสูงมีความเป็นรูพรุนสูง ดูดซับกลิ่นได้ดี ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
“ถังอบถ่านแนวตั้งประสิทธิภาพสูง” เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เป็นผลสำเร็จจากการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปพัฒนาต่อยอดให้ได้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย สนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจใหม่ BCG ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการกระจายรายได้และความเจริญไปสู่ภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง