ม.ราชภัฏนครราชสีมา จึงได้ดำเนินการตามนโยบายของ อว. ด้วยการจัดทำประกาศมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอบและการประเมินผลรายวิชาที่จัดสอบในชั้นเรียนเป็นวิธีการอื่น เช่น การสอบออนไลน์ การมอบหมายงาน การนัดหมายตรวจผลงานผ่านทางระบบออนไลน์ หรือรูปแบบอื่น ๆ ตามความเหมาะสม โดยมอบหมายให้คณบดีกำกับ ดูแล การจัดสอบดังกล่าว ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมหาวิทยาลัยจะออกประกาศการสอนระดับปริญญาตรี ภาค กศ.ปช., ระดับบัณฑิตศึกษา ภาคการศึกษาที่ 2/2562 และระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ภาคการศึกษาที่ 3/2562 โดยให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนจากแบบปกติ (ชั้นเรียน) เป็นแบบออนไลน์ให้ครบทุกหลักสูตร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 จนจบภาคการศึกษา
นอกจากนี้ จัดให้มีการปฏิบัติงาน Work from home ให้แต่ละหน่วยงานสำรวจหน่วยงานที่สามารถปฏิบัติงานที่บ้านได้ และทำแผนการปฏิบัติงานเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เมื่อผู้บังคับบัญชารวบรวมข้อมูลได้แล้วให้นำเสนอต่ออธิการบดี ในส่วนการปฏิบัติงานวันเสาร์-อาทิตย์ คณะทั้ง 6 คณะ จะปฏิบัติงานเฉพาะวันเสาร์ ยกเว้นบัณฑิตวิทยาลัย และหน่วยงานอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากคณะ ให้หัวหน้าหน่วยงานเป็นผู้พิจารณา และรวบรวมข้อมูลเสนอต่ออธิการบดี รวมถึงการสอบวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สามารถทำได้แต่ต้องมีการคัดกรอง โดยคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยต้องดูแลเป็นพิเศษ
สำหรับการปิดให้บริการในส่วนของสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา และเรือนโคราช สำนักศิลปะและวัฒนธรรม จะปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นปกติ
อธิการบดี ม.ราชภัฏนครราชสีมา เปิดเผยต่อว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนขอความร่วมมือไม่ให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางกลับประเทศ มหาวิทยาลัยจึงมอบหมายให้หลักสูตรและคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ พิจารณาการเรียนการสอนและกิจกรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และด้วยความห่วงใย มหาวิทยาลัยได้กำชับให้คณาจารย์และบุคลากร ป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยการล้างมือบ่อย ๆ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกและร้อนอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอจาม ไม่ขยี้ตา แคะจมูก สวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ หากคณาจารย์และนักศึกษา มีการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง จะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัส ณ โรงพยาบาลหรือสถานที่พยาบาลที่มีมาตรฐานในการตรวจคัดกรอง และฝ้าระวังการติดเชื้อ กักตนเอง จำนวน 14 วัน หากมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูล หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง และรายงานผลการตรวจโรคดังกล่าวต่อมหาวิทยาลัย