กรมส่งเสริมการเกษตร เผยผลการส่งเสริมความรู้แก่เกษตรกรผู้ได้รับจัดสรรที่ดินทำกิน

พฤหัส ๑๙ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๔๕
นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เป็นการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงและลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้การบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรดินของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล เป็นธรรม และยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สนับสนุนให้มีการปลูกไม้ยืนต้น เพื่อไม่ให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าและมีการทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านการผลิตทางการเกษตรที่เหมาะสมให้แก่เกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินตามกรอบนโยบายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่กรมส่งเสริมการเกษตรโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอทั่วประเทศ จัดการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตรแก่เกษตรกรที่ได้รับจัดสรรที่ดินทำกินตามความต้องการของเกษตรกรและความเหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่

โดยยึดหลักการทำการเกษตรด้วยระบบเกษตรยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนจัดหาวัสดุการเกษตรที่จำเป็นสอดคล้องกับลักษณะการจัดสรรพื้นที่ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายในสมุดบันทึกบัญชีครัวเรือนนั้น ปัจจุบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถ

ลดรายจ่ายจากการซื้อพืชผักสวนครัวและอาหารไว้บริโภค เฉลี่ย 500 - 3,000 บาท/เดือน ประกอบกับมีรายได้จากการจำหน่ายพืชผักสวนครัวที่เหลือจากการบริโภค 500 - 1,500 บาท/เดือน นอกจากนี้ หากในระยะยาวไม้ยืนต้นและไม้ผลให้ผลผลิต คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก 2,000 – 30,000 บาท/ปี ทั้งนี้ ปี 2563 กรมส่งเสริมการเกษตร สร้างเกษตรกรต้นแบบรวม 30 ราย โดยมีแปลงที่ดินทำกินต้นแบบแล้วใน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อุทัยธานี สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ และพัทลุง

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ยังพัฒนาให้เกษตรกรต้นแบบจากโครงการนี้ สามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรรายอื่นและผู้สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมเยียนเรียนรู้ได้ เช่น นายสุ่ม คุณทวงศ์ ต.ระกำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มีความรู้ในการทำเกษตรผสมผสาน นางสาวลริสราพร มังคละ ต.ชุมตาล อ.ท่าวังผา จ.น่าน มีความรู้ในการปลูกข้าวอินทรีย์ ผลิตน้ำส้มควันไม้ไผ่ และผลิตถ่านจากไม้ไผ่ และนางประภาภรณ์ พื้นผา ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ มีความรู้ในการปลูกผักหวานป่า และทำเกษตรผสมผสาน โดยเกษตรกรต้นแบบแต่ละคนมีแนวคิดต่อยอด/ขยายผลการทำเกษตรของตนให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น ระบบน้ำหยด ตลอดจนพัฒนาสู่การเป็นวิทยากรเกษตรกรที่เชี่ยวชาญเพื่อช่วยถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรที่ได้รับจัดสรรที่ดินทำกินรุ่นต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๕๑ BLA กวาดกำไรปี 67 รวม 3,623 ล้านบาท โตพุ่ง 42% เคาะจ่ายปันผลปี 2567 หุ้นละ 0.68 บาท รวม 1,159 ล้านบาท
๑๓:๒๓ TIDC จับมือ G42 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย พร้อมเสริมศักยภาพ AI
๑๓:๔๓ WPH ฟอร์มสวย! โชว์รายได้ปี67 ทะลุ 2,000 ลบ.โตขึ้น 39% กำไรแตะ 283 ลบ.เพิ่มขึ้น 198%
๑๓:๓๓ บลจ. ไทยพาณิชย์ ประเดิมกองทุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พร้อม IPO กองทุนแรก SCBSBUSD6M1 เปิดเสนอขาย 24 ก.พ. 68 - 3 มี.ค. 68
๑๓:๐๓ ท่าเรือประจวบ จัดงาน Town Hall 2025 ชูแผนธุรกิจ มุ่งสู่ Blue Port
๑๓:๔๗ Kan Grooves จิ๋วแต่แจ๋ว เดี่ยวกลองสุดมันส์ พร้อมทัพนักดนตรีมากความสามารถอีกเพียบ
๑๓:๐๘ บีทูเอส Pokemon PLAY LAB Fun Fest by B2S ครั้งแรกในไทย ครบครันที่สุด สำหรับคนรักโปเกมอน
๑๓:๐๗ กรุงไทยร่วมกับ มหามกุฎราชวิทยาลัย ยกระดับการศึกษายุคดิจิทัลผ่าน Krungthai Campus Application
๑๓:๐๓ SPCG ประกาศกำไรสุทธิปี 67 ที่ 746.8 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผลครึ่งปีหลัง 0.70 บาทต่อหุ้น สะท้อนฐานะการเงินแข็งแกร่ง
๑๓:๔๖ BEM NEW HORIZONS สร้างโอกาสอย่างยั่งยืน บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ