นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้ามากว่า 25 ปี มีศูนย์การค้าที่ประสบความสำเร็จรวมกว่า 20 แห่ง โครงการใหม่นี้จะเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ สู่โครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส โดยบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่นี้โดยพื้นที่ใจกลางทองหล่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ มีโครงการที่พักอาศัยและคอนโดมีเนียมจำนวนมาก กลุ่มผู้อยู่อาศัยเป็นกลุ่มคนและครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ มีกำลังซื้อสูง ทำเลมีความสมบูรณ์แบบลงตัว เดินทางได้สะดวกคล่องตัว ใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งความท้าทายสำคัญคือพัฒนาพื้นที่ที่มีมูลค่าสูงให้เต็มศักยภาพสูงสุด เพื่อพร้อมดึงดูดลูกค้าเพิ่มและตอบโจทย์ความต้องการและวิถีการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าได้อย่างครบวงจร”
โครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่นี้ ใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาพื้นที่เดิมของ มาร์เก็ตเพลส ทองหล่อ พร้อมกับพื้นที่โดยรอบรวม 5 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อเตรียมการก่อสร้าง ภายในโครงการประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีกรวมกว่า 17,000 ตารางเมตร จำนวน 5 ชั้น ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กและจุดนัดพบแห่งใหม่ ที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดัง ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ และร้านที่ให้บริการสุขภาพและความงามชั้นนำ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลาง (Common area) พื้นที่พักผ่อน และ Beach Club สุดชิคที่ให้คนรุ่นใหม่ได้ผ่อนคลายและค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้ พร้อมด้วยที่จอดรถกว่า 500 คันภายในโครงการ ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของทุกช่วงชีวิตให้กับลูกค้าในย่านทองหล่อ และสุขุมวิท ได้อย่างแท้จริง
นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ ในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ครั้งนี้ นับเป็นโจทย์ใหม่ของบริษัทฯ เช่นกัน โดยบริษัทฯ เข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่ในส่วนอาคารสำนักงานแห่งใหม่ โดยจะพัฒนาเป็นออฟฟิศที่เปิดบริการแบบ Flexible-hours เพื่อรองรับการทำงานและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนทำงานในบริษัทยุคใหม่ ที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงาน และสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เกิดการคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ตลอดเวลา”
“นอกจากนี้ รูปแบบของโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่นี้ ยังคงมีแนวคิดในการรักษาพื้นที่สีเขียว มอบความร่มรื่นให้กับผู้ที่มาใช้บริการ ซึ่งในขั้นตอนการออกแบบโครงการ บริษัทฯ ยังคงรักษาต้นไม้ใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่เดิมเอาไว้โดย โครงการจะปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ให้บรรยากาศสะอาด สดชื่น ซึ่งขณะนี้โครงการทั้งหมดอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้าง โดยตั้งเป้าหมายพร้อมเปิดให้บริการในปลายปี 2565 และจะเป็นแลนด์มาร์กของคนเมืองอย่างแน่นอน” นายนพพร กล่าวสรุป