ในปี 1959 Mido ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นแรกของ Commander ด้วยตัวเรือนทรงกลมที่มีรูปทรงที่บางเพรียว และมีเอกลักษณ์ของคอลเล็กชั่น Commander ถือเป็นความโดดเด่น ที่สามารถจดจำได้ทันที เพียงแค่เห็นเงาที่ทอดลงมา เฉกเช่นเดียวกับหอไอเฟล ที่ผู้คนสามารถจดจำได้ จากโครงสร้างที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แม้ว่ากาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่เอกลักษณ์และรูปแบบที่เฉพาะเหล่านี้ยังสามารถสะท้อนถึงการออกแบบได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึง 6 ทศวรรษ แต่ทว่า DNA ที่สำคัญในการนำนาฬิกาคอลเล็กชั่น Commander ยังคงถูกเก็บรักษาและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และทำให้ Commander ถือเป็นคอลเล็กชั่นที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้ธรรมเนียมปฏิบัติและความเชี่ยวชาญของบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์อย่างแท้จริง นี่คือผลผลิตที่ถูกส่งออกมาเพื่อยกย่องและเชิดชูนาฬิการุ่นหนึ่งของแบรนด์ที่ถือว่าเป็นตัวแทนของแบรนด์และได้รับการจดจำจากผู้คนทั่วโลกมาโดยตลอด
แน่นอนว่า Commander ในรุ่น Commander Shade จาก มิโด ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเรือนทรงกลมที่ผลิตแบบชิ้นเดียวหรือMonocoque เอาไว้ มาพร้อมกับเส้นสายและการขัดแต่งที่มีความประณีต ส่วนหน้าปัดมาในสไตล์ทูโทนที่มีสีดำและสีน้ำเงินเป็นส่วนประกอบ ไล่เฉดสีอย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับ Commander Blue Shade ให้ความสะดวกสบายเมื่อสวมใส่บนข้อมือด้วยการจับคู่กับสายสแตนเลสถัก Milanese ที่มีการขัดแต่งด้วยลวดลายซาติน มีการเคลือบ PVD สีดำ และด้วยตัวเรือนที่มีทรงกลมนั้นทำให้Commander Blue Shade ดูโดดเด่นและสะดุดตายามเมื่อถูกสวมใส่อยู่บนข้อมือ ภายใต้ตัวเรือนที่มีรูปทรงการออกแบบย้อนยุคและมีกลิ่นอายดั้งเดิม สิ่งที่อยู่ข้างในนั้นกลับแตกต่างด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุด Caliber 80 ให้ความเที่ยงตรงในการทำงาน อีกทั้งยังสามารถสำรองพลังงานสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง และจากจุดมุ่งหมายในการยกย่องรูปทรงในสไตล์วินเทจของนาฬิการะดับตำนานอย่าง Commanderการสร้างสรรค์ที่โดดเด่นในครั้งนี้จะสามารถดึงดูดความสนใจจากบรรดาคนที่ชื่นชอบนาฬิกาในสไตล์วินเทจและนาฬิกาที่มีรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลาได้เป็นอย่างดี
ตัวเรือนทรงกลมที่ผลิตแบบชิ้นเดียว (Monocoque) เคลือบ PVD สีดำ เปี่ยมด้วยความประณีตในทุกรายละเอียด พร้อมกับเส้นสายบนตัวเรือนที่ช่วยเติมความโดดเด่นให้กับหน้าปัดนาฬิกา ตัวเรือนจับคู่กับกระจกแบบคลาสสิคผลิตจากอะครีลิก พร้อมปั๊มสัญลักษณ์ของ Mido ลงบนตรงกลางของตัวกระจก ด้วยตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 37 มิลลิเมตร Commander Blue Shade ได้เปิดเผยให้เห็นถึงหน้าปัดที่มีความสวยงามในสไตล์ทูโทน ดำ-น้ำเงิน ด้วยการขัดแต่งแบบ Smoked Sunray Satin ตัวหลักชั่วโมงบนหน้าปัดได้รับแรงบันดาลมาจากจุดยึดที่อยู่บนเหล็กแต่ละชิ้นที่ประกอบเป็นหอไอเฟล และมีการขัดแต่งและเคลือบให้เป็นสีดำเงา เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถมองเห็นได้ในยามค่ำคืน จะมีการแต้มสารเรืองแสง Super-LumiNova(R) ทรงกลมตามหลักชั่วโมงรอบหน้าปัด รวมถึงบนเข็มชั่วโมงและนาทีแบบ Diamond-Cut ส่วนตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนหน้าปัดมีช่องสำหรับแสดงวันและวันที่ สำหรับการเคลือบ PVD สีดำในรุ่นนี้ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของคอลเล็กชั่นCommander ทำให้ Commander Shade ยังคงความคลาสสิคที่โดดเด่นอยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งถือเป็นความสมบูรณ์แบบในการแสดงให้เห็นถึงหลักปรัชญาที่ฝังอยู่ในยีนส์ของ Mido มาตั้งแต่ปี 1918
นอกจากนั้น Commander Blue Shade ยังได้รับการติดตั้งด้วยเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน นั่นคือ กลไกอัตโนมัติCaliber 80 สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง ฝาหลังตัวเรือนนาฬิกา สลักสัญลักษณ์ดั้งเดิมของ Mido และสามารถกันน้ำภายใต้แรงดันสูงสุด 5 บาร์ (50 เมตร/165 ฟุต) สายสแตนเลสถัก Milanese ขัดแต่งด้วยลวดลายซาติน เคลือบ PVD สีดำ พร้อมตัวรักสายแบบเลื่อนปรับได้ ซึ่งช่วยทำให้การสวมใส่เปี่ยมด้วยความสะดวก สบาย และสะท้อนถึงภาพลักษณ์ในสไตล์วินเทจที่เป็นจุดเด่นของนาฬิการุ่นนี้ แต่ยังมีความทันสมัยตามยุคสมัยปัจจุบัน
Commander Shade นอกเหนือจาก รุ่นหน้าปัดดำ – น้ำเงิน ยังมีจำหน่ายเพิ่มเติมอีก 2 รุ่น คือ ตัวเรือนสตีล พร้อมหน้าปัดเล่นระดับไล่เฉดสี สีดำ - เงิน หรือ ตัวเรือนสตีลเคลือบ PVD สีพิ้งค์โกล์ด พร้อมหน้าปัดเล่นระดับไล่เฉดสสีน้ำตาลอมเทา (Taupe) และเงิน ร่วมเป็นเจ้าของเรือนเวลาสไตล์วินเทจสุดหรูระดับตำนาน จากแบรนด์ มิโด (Mido) ตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ ที่ เคาน์เตอร์ มิโด (Mido) ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ