นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019" หรือ "โรคโควิด-19" ในประเทศไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ กำหนดแนวปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยให้บุคลากรปฏิบัติงานที่บ้าน หรือนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน เพื่อลดจำนวนคนที่จะมาอยู่รวมกันภายในสำนักงาน แต่ในขณะเดียวกันต้องดูแลเกษตรกรและประชาชนที่มาขอรับบริการให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับภาวะปกตินั้น
กรมวิชาการเกษตร ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญทั้งด้านการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์พืช และมีงานบริการที่ต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานบริการของกรมวิชาการเกษตรทั้งด้านการนำเข้าและส่งออกสินค้า พืชและปัจจัยการผลิต และงานบริการขึ้นทะเบียนและออกใบรับรอง จำนวน 8 หน่วยงาน วางแผนการปฏิบัติงานในช่วงสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มาขอรับบริการ เช่น การออกใบรับรองสุขอนามัยพืช การออกใบรับรองสุขอนามัยสินค้าเกษตรแปรรูปด้านพืช การออกใบอนุญาตนำเข้า/นำผ่าน สิ่งต้องห้าม งานตรวจรับรองปลอดศัตรูพืชสำหรับพืชและผลิตผลพืชเพื่อการส่งออก งานตรวจสอบพืชและสินค้าพืชดัดแปลงพันธุกรรม งานบริการทดสอบและรับรองคุณภาพยาง การออกหนังสืออนุญาตพืชอนุรักษ์และหนังสือรับรองการส่งออกพืชลูกผสม งานตรวจวิเคราะห์คุณภาพเมล็ดพันธุ์พืช รวมทั้งการขึ้นทะเบียนโรงงานคัดบรรจุ GMP การรับรองแหล่งผลิตพืช GAP และเกษตรอินทรีย์
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำมาตรการรองรับงานให้บริการโดยลดขั้นตอนการปฏิบัติงานในส่วนที่สามารถหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาขอรับบริการ เช่น การให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มเอกสารคำขอต่างๆ และกรอกแบบฟอร์มดังกล่าวส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือยื่นคำขอผ่านทางอีเมล หรือโทรสาร หากผ่านการตรวจสอบครบถ้วนแล้วเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ และแจ้งกลับทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อนัดหมายวันเวลาให้ผู้รับบริการรับหนังสือสำคัญฉบับจริงต่อไป
สำหรับงานบริการบางขั้นตอนที่ผู้ขอรับการบริการต้องมาติดต่อด้วยตนเองไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ กรมได้จัดให้มีมาตรการป้องกันความปลอดภัยระหว่างผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่ โดยก่อนเข้ารับการบริการต้องผ่านการคัดกรองโดยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัย และตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์รวมทั้งตั้งจุดบริการสอบถามที่สำนักงานโดยอยู่ในระยะห่างที่ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือมีกระจกกั้น ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรก็จะมีการสลับกันมาปฏิบัติงานที่จำเป็นเพื่อลดจำนวนบุคลากรที่ ต้องอยู่รวมกันจำนวนมากซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อหรือติดเชื้อโควิดได้ พร้อมกับกำชับให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือประจำสำนักงาน สถานที่ติดต่อทั้งภายในอาคารและนอกอาคารอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งงดทุกกิจกกรมที่ต้องอยู่รวมกันจำนวนมาก
“แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแต่เจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรพร้อมที่จะให้บริการอย่างเต็มที่โดยไม่ให้ เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้บริการหรือกระทบน้อยที่สุดจนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการติดต่อขอรับบริการในด้านต่างๆ จากหน่วยงานของกรมวิชาการเกษตร สามารถตรวจสอบรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติได้ที่เว็บไซต์ของกรมวิชาการเกษตร www.doa.go.th อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว