นางสาวดวงใจ
อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
(โควิด-19) ที่ขยายวงกว้างขึ้น
จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้
กระทรวงการคลังได้มีมาตรการให้เลื่อนเวลาการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล
รอบระยะเวลาบัญชีปี 2562 (ภ.ง.ด.50)
เป็นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบนั้น
เพื่อให้เงื่อนไขด้านการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของบีโอไอสอดคล้องกับมาตรการของกระทรวงการคลัง
บีโอไอจึงได้ขยายกำหนดเวลาการยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
เป็นภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 หรือก่อนครบกำหนดเวลายื่นรายการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล ไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อความสะดวกของผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
นอกจากนี้ แม้ว่าบีโอไอจะเปิดให้บริการตามปกติ แต่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นต้องยื่นเรื่องหรือเอกสารต่างๆ บีโอไอจึงได้เพิ่มบริการรับเอกสารทางออนไลน์ นอกเหนือจาก e –Service ที่มีอยู่เดิม (เช่น e-Investment สำหรับรับคำขอส่งเสริมฯ e-Tax สำหรับการยื่นขออนุมัติการใช้สิทธิภาษีเงินได้นิติบุคคล) โดยผู้ประกอบการหรือผู้ใช้บริการสามารถยื่นเรื่อง จดหมาย หรือเอกสารต่างๆ ผ่านระบบการยื่นเอกสารออนไลน์ หรือ “e–Submission” ผ่านเว็บไซต์บีโอไอได้ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ระบบการยื่นเอกสารออนไลน์นี้ใช้ได้กับการยื่นเอกสารต่อสำนักงานของบีโอไอในส่วนภูมิภาคทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา ชลบุรี สงขลา และสุราษฎร์ธานี ด้วย
ทั้งนี้
เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ นอกเหนือจากการติดต่อบีโอไอผ่านโทรศัพท์ อีเมล แล้ว
บีโอไอได้เพิ่มช่องทางการติดต่อผ่านโซเชียลมีเดีย ได้แก่ ไลน์: @boinews เฟสบุ๊ก: BOI NEWS รวมทั้งสามารถนัดหมายเพื่อประชุมออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ได้
โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.boi.go.th หัวข้อ e–Service