ด้านสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อหมุนเวียน(revolving Loan) ธนาคารพิจารณาปรับลดวงเงินการผ่อนชำระต่องวดลง เหลือ 5% ในปี 2563-2564 จากปกติอยู่ที่10% จากนั้นผ่อนชำระเพิ่มเป็น 8% ในปี 2565 และผ่อนชำระเป็นปกติที่ 10%ในปี2566 นอกจากนี้ขณะเดียวกันลูกหนี้ยังสามารถที่จะเลือกแนวทางแปลงหนี้เป็นหนี้ระยะยาวได้ด้วยด้านสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวดและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ธนาคารพาณิชย์พิจารณามาตรการช่วยเหลือ เช่น การเลื่อนชำระเงินต้นดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือการลดวงเงินผ่อนชำระ 30% เป็นระยะเวลา 6 เดือนด้านสินเชื่อเช่าซื้อ ประกอบด้วยสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ ที่มีวงเงินไม่เกิน 3.5 หมื่นบาท และสินเชื่อรถทุกประเภทที่ราคาไม่เกิน 2.5 แสนบาท ธนาคารพิจารณาเลื่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือนด้านสินเชื่อ ลิสซิ่ง ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักร โดยมีมูลหนี้คงเหลือไม่เกิน 3 ล้านบาท ธนาคารพิจารณาเลื่อนหรือพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือนด้านสินเชื่อบ้านสำหรับวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท ธนาคารพิจารณาพักชำระเงินต้น เป็นเวลา 3 เดือนด้านสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ ที่มีวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท ธนาคารพิจารณาพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน
มาตราการที่ออกมาเป็นการลดภาระโดยที่จะออกมาจะไม่มีผลต่อสถานะทางการเงินของลูกค้า หรือการบันทึกประวัติทางการเงินตามแนวทางของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ NCB แต่อย่างใด
สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตราการดังกล่าว จะช่วยคลายความกังวลให้ลูกค้าด้านภาระด้านการเงินบางส่วนในสถานการณ์เรื่อง COVID -19 และคาดหวังให้ลูกค้าโดยความช่วยเหลือของธนาคารนี้สามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน