นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จีเอสเคได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด จีเอสเคทั่วโลกพร้อมสนับสนุนการดำเนินการเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานด้านสุขภาพต่างๆ โดยได้กำหนดแผนปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการบริหารจัดการระบบซัพพลายเชนทั่วโลกเพื่อจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและไว้วางใจได้ เพื่อบริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยและผู้บริโภค
มอบเงินสนับสนุนการป้องกันและควบคุมโควิด-19 เร่งช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์
จีเอสเค มอบเงินจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับกองทุน COVID-19 Solidarity Response Fund ของมูลนิธิองค์การสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก เพื่อสนับสนุนการทำงานขององค์การอนามัยโลกและพันธมิตรในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รวมทั้งการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 และมอบสิ่งจำเป็น อาทิ ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกันนี้ จีเอสเคได้บริจาคสารรีเอเจนต์ (reagent) เพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรคในหลายประเทศ
การวิจัยและการผลิตวัคซีนทดลองเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
จีเอสเคสนับสนุนให้นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานวิจัยต่างๆ ทั่วโลกสามารถนำเทคโนโลยีสารเสริมฤทธิ์ (Adjuvant technology) ของบริษัทฯ ไปใช้เพื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19 อย่างเต็มที่ ซึ่งเทคโนโลยีสารเสริมฤทธิ์ นับเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญและมีความจำเป็นสำหรับการพัฒนาวัคซีนในภาวะการระบาดใหญ่ในขณะนี้ เนื่องจากการใช้สารเสริมฤทธิ์จะช่วยลดปริมาณการใช้โปรตีนในวัคซีนแต่ละโดสในขณะที่ประสิทธิภาพยังคงเดิม ทำให้สามารถผลิตวัคซีนได้จำนวนมากขึ้นเพื่อใช้ป้องกันโรคสำหรับคนจำนวนมาก โดยล่าสุด จีเอสเคได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย และบริษัท โคลเวอร์ ไบโอฟาร์มาซูติคอล ประเทศจีน รวมถึงขยายความร่วมมือไปยังบริษัทพันธมิตรอีก 5 แห่งและกลุ่มวิจัยทั่วโลก รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งขณะนี้มีรายงานความคืบหน้าของการการทดลองระยะพรีคลีนิกจากความร่วมมือของจีเอสเคและองค์กรหนึ่งที่แสดงให้เห็นประโยชน์ของสารเสริมฤทธิ์ และคาดว่าจะได้รับข้อมูลรายงานความคืบหน้าการพัฒนาทางคลีนิกของวัคซีนทดลองเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 จากความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ ภายใน 3 เดือน โดยจีเอสเคจะเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับองค์กรและสถาบันอื่นๆ ต่อไป พร้อมเร่งจัดหาแนวทางต่างๆ ในกระบวนการผลิต เพื่อรองรับการผลิตวัคซีนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้เพียงพอต่อความต้องการ
การทดสอบและวิจัยยาชนิดใหม่
จีเอสเค ได้ร่วมกับบริษัทยาและสถาบันการศึกษาชั้นนำ ดำเนินโครงการวิจัย COVID-19 Therapeutics Accelerator เพื่อวิจัยโมเลกุลที่มีความเป็นไปได้สูงทีสุดในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยจีเอสเคจะอนุญาตให้บริษัทยาและสถาบันการศึกษาสามารถนำสารประกอบต่างๆ ที่บริษัทมีอยู่ ไปทดสอบเพื่อพัฒนายาในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 นอกจากนี้ จีเอสเคกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะใช้ยาปัจจุบันของจีเอสเค ยาที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา และยาที่มีฤทธิ์ในการต้านไวรัส ในการป้องกันหรือรักษาภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อใช้รับมือการแพร่ระบาดครั้งนี้ รวมทั้งพิจารณาแนวทางในการอนุญาตให้องค์กรต่างๆ ใช้ห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาเฉพาะทางของบริษัทฯ เพื่อทำการวิจัยและทดลองเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19
การส่งมอบผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการของผู้ป่วยและผู้บริโภค
จีเอสเค ตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารจัดการซัพพลายเชนเพื่อจัดหายา วัคซีน และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยและผู้บริโภคทั่วโลกภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ ยาบรรเทาปวด วิตามิน และอาหารเสริมต่างๆ
“จีเอสเคมีความมุ่งมั่นในการใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งทรัพยากรต่างๆ ทั่วโลกของบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วนทั้งในระดับโลกและในระดับประเทศ จีเอสเคพร้อมที่จะ ช่วยเหลือในขอบเขตที่เราสามารถทำได้เพื่อร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและยุติสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ให้เร็วที่สุด จีเอสเคขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่อยู่แนวหน้าในการต่อสู้กับโควิด-19 ทุกท่าน วิกฤตินี้ทำให้เราตระหนักว่า ความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคนจะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง” นายวิริยะ กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับจีเอสเค
จีเอสเค เป็นบริษัทผู้ค้นคว้าวิจัยพัฒนายาและวัคซีนระดับโลก ภายใต้พันธกิจที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของมวลมนุษย์ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ทำกิจกรรมได้มากขึ้น และมีอายุยืนยาวขึ้น www.gsk.com