นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ
ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การปิดตลาดที่ไม่ใช่ธุรกิจอาหาร
ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ธนาคารเองในฐานะผู้ดูแลกลุ่มลูกค้าธุรกิจนาโนและไมโครไม่อาจนิ่งนอนใจ
จำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือเพื่อลดภาระให้กับลูกค้า เราทราบดีว่ากลุ่มธุรกิจนาโนเป็นกลุ่มที่เปราะบาง
และที่สำคัญไม่มีเกราะป้องกันใดๆ ที่จะช่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เพื่อปกป้องลูกค้าของเรา
ธนาคารจึงมอบกรมธรรม์ประกันภัยฟรีให้กับลูกค้านาโนและไมโครเครดิต โดยไม่มีเงื่อนไข
ไม่ต้องลงทะเบียน หรือส่งเอกสารใดๆ เพียงแค่ลูกค้าได้รับ SMS
ความคุ้มครองก็จะเริ่มตามกรมธรรม์ และสามารถดูรายละเอียดการเคลมได้ผ่านข้อมูลในเว็บไซต์ของธนาคาร
และเราหวังอย่างยิ่งว่าสถานการณ์เลวร้ายนี้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววัน
นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังเผยผลสำรวจผลกระทบทางเศรษฐกิจของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อธุรกิจนาโนและไมโคร จากการสุ่มตัวอย่างพ่อค้าแม่ค้าทั่วประเทศกว่า 1,800 ราย ในช่วงวันที่ 19 – 20 มีนาคม การสำรวจนี้เป็นไปเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก โดยคำตอบจากผลสำรวจ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
93%
ของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทำให้รายได้ต่อวันลดลงเป็นอย่างมากโดยเฉพาะตลาดในกรุงเทพมหานคร
จำนวนผู้บริโภคในตลาดหายไปอย่างเห็นได้ชัดทุกภูมิภาค โดยเฉลี่ยลดลงอยู่ระหว่าง
53 – 76% ต่อวันรายได้เฉลี่ยรวมต่อวันของพ่อค้าแม่ค้าทั่วประเทศลดลงจาก
8,581 บาท เหลือเพียง
4,148 บาท หรือ 52% พ่อค้าแม่ค้าในตลาดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
สูญเสียรายได้ต่อวันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ลดลงถึง 68%จำนวนลูกค้าต่อวันทุกภูมิภาคเฉลี่ยลดลง
61%พ่อค้าแม่ค้าในตลาดภาคตะวันตก
เช่น จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เป็นต้น ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยผู้บริโภครายวันหายไปกว่า
76%ผลกระทบจากผู้บริโภคในตลาดลดลง
ทำให้ร้านค้าในตลาดซบเซา ธุรกิจที่รายได้หดหายลดฮวบมากที่สุดถึง 70% คือ ธุรกิจแฟชั่น ได้แก่ เสื้อผ้า
กระเป๋า รองเท้า รองลงมาคือ 2
ธุรกิจที่รายได้ลดลงเฉลี่ยเท่ากันที่ 66% ได้แก่ ธุรกิจบริการเฉพาะ
เช่น ร้านเสริมสวย ร้านนวดและสปา ร้านตัดเสื้อ และธุรกิจดอกไม้สดและจัดสวน เช่น
ร้านขายพวงมาลัย เป็นตัน ธุรกิจอันดับ 3 ที่รายได้ลดลงกว่า 48% คือ ร้านโชว์ห่วย หรือมินิมาร์ท ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
ผู้บริโภคเลือกที่จะตัดการซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกก่อนผู้ประกอบการนาโนและไมโครเครดิตกว่า
1,100 ราย ยอมรับว่าต้องเผชิญกับปัญหาราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น
ในขณะที่พ่อค้าและแม่ค้ากว่า 500 ราย ยังคงสามารถหาวัตถุดิบที่ราคาเท่าเดิมได้อยู่วิธีรับมือในการพยุงธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด
34%
ของจำนวนพ่อค้าแม่ค้าทั้งหมดยอมรับว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีวิธีรับมืออย่างไร
ในขณะที่ 24% ตัดสินใจลดต้นทุน อีก 12%
พยายามหาสินค้าอื่นมาขายเพิ่มเติม และ 10% วางแผนขอกู้เพิ่มนอกจากนี้
เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามีข้อเสนอแนะเพื่อขอบรรเทาความเดือดร้อน โดย 48% ของข้อเสนอแนะ
อยากให้มีการพักชำระหนี้ 16%
เสนอให้มีเงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) 8% อยากให้มีการลดค่างวดหรือลดดอกเบี้ย ในขณะที่ส่วนที่เหลือต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพิ่ม
ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ และอื่นๆ
(หมายเหตุ: ผลสำรวจจัดทำขึ้นโดยธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) จากการสุ่มตัวอย่างกลุ่มผู้ประกอบการนาโนและไมโครเครดิตจำนวน 1,802 รายทั่วประเทศ การสำรวจนี้เป็นไปเพื่อการศึกษาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่ได้จัดทำขึ่นเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ธนาคารฯ จะไม่ขอรับผิดชอบต่อการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดแต่อย่างใด)
ธนาคารไทยเครดิตฯ เข้าใจกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยนาโนและไมโครเครดิตเป็นอย่างดีว่า ผู้ประกอบการเหล่านี้คือ คนหาเช้ากินค่ำ และน้อยนักที่จะมีเงินเก็บเงินออมไว้ในยามฉุกเฉิน ดังนั้น ประกันภัยคุ้มครองนี้จะช่วยลูกค้าและครอบครัวได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก หากลูกค้าได้รับความเสี่ยง เกิดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้าขั้นอาการโคม่า หรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ลูกค้าจะได้รับเงินชดเชย 100,000 บาท
“ลูกค้าคือคนสำคัญสำหรับเรา
ไม่ว่าธุรกิจเขาจะเล็กแค่ไหน เราก็จะต้องดูแลลูกค้าของเราให้ดีที่สุด
เพราะเราเชื่อว่า Everyone Matters
และเราจะยืนหยัดภายใต้คำมั่นสัญญาต่อแบรนด์ของธนาคาร ใครไม่เห็น เราเห็น”
นายรอยกล่าวปิดท้าย