นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยยกเลิกกำหนดวันประชุมและระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 จากกำหนดวันเดิม วันที่ 24 เมษายน 2563 เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย
ทั้งนี้แม้ว่าจะมีการเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ของบริษัทฯ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่หากสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดวันประชุม และระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 และจะกำหนดแจ้งวันให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 21 เมษายน 2563นี้ บริษัทจะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น
โดยฝ่ายจัดการจะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลตามเงื่อนไขเช่นเดียวกับการจ่ายเงินปันผลประจำปีที่คณะกรรมการได้มีการอนุมัติ
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา
โดยในการประชุมครั้งดังกล่าวคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติ การจ่ายปันผลประจำปี 2562
ที่ 0.2525 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นแล้วจำนวน
0.0925 บาทต่อหุ้น และเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.16
บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ฝ่ายจัดการจะเสนอให้มีการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นและวันที่จ่ายเงินปันผล
ในกรอบระยะเวลาเดิมจากที่เคยเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ อีกด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม และจะให้บริการโซลูชั่นทรัพยากรน้ำหลากหลายรูปแบบ ทั้ง การผลิตน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมจากน้ำเสีย (Reclaimed Water) และการผลิตน้ำปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) เพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านการลดผลกระทบจากภัยแล้งในปีนี้ และความยั่งยืนในการใช้น้ำในระยะกลาง-ยาว
ส่วนในประเทศเวียดนามนั้น ภายหลังที่มีการเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทน้ำ 2
แห่งในปี 2562 ที่ผ่านมา คาดว่าปี 2563 จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี
พร้อมทั้งยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาโซลูชั่นพลังงานหมุนเวียนต่อเนื่อง
ซึ่งคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาติดตั้ง Solar Rooftop เพิ่มเติม และมีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นในปีนี้เพิ่มเติมไปอยู่ที่กว่า
591 เมกะวัตต์ จากระดับ
559 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2562