นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประเทศไทย รวมถึงทั่วโลกกำลังรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ในขณะนี้ กองทุนบัวหลวง ตระหนักเป็นอย่างยิ่งถึงความสำคัญและความจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์การแพทย์ที่เพียงพอ เพื่อให้การรับมือกับ โรคระบาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น กองทุนบัวหลวง ผู้บริหารจัดการ กองทุนรวม คนไทยใจดี หรือ กองทุน BKIND จึงปันน้ำใจร่วมกับพนักงานกองทุนบัวหลวง ระดมเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 1 ล้านบาท โดยส่งมอบให้กับ ผศ.นพ.(พิเศษ) โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปใช้ในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้
“กองทุนบัวหลวงขอขอบคุณทีมแพทย์ทั่วประเทศที่เป็นกำลังสำคัญหรือด่านหน้าต่อสู้กับโควิด-19 ในเวลานี้ ขณะเดียวกัน พนักงานกองทุนบัวหลวงก็พร้อมสนับสนุนมาตรการของภาครัฐบาล ด้วยการทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดเชื้อ เพื่อชาติ ทั้งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดหรือแบ่งเบาภาระการทำงานของทีมแพทย์ลงไปได้ไม่มากก็น้อย โดยมิให้การให้บริการลูกค้าของเราต้องหยุดชะงักลง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
ในโอกาสนี้ คณะกรรมการ ผู้บริหารของบริษัท รวมทั้งพนักงานกองทุนบัวหลวงทุกคน ขอเป็น ส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ซึ่งเป็นผู้ที่เสียสละตนเองและพยายามอย่างยิ่งที่จะทำงาน ต่อสู้อย่างเข้มแข็งกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ ขอให้คนไทย ทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้ด้วยดีในเร็ววันนี้
กองทุน BKIND เป็นกองทุนรวมกองแรกของประเทศไทย ที่จัดตั้งขึ้นมา โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่ผ่านเกณฑ์ ESG ของกองทุนบัวหลวง ได้แก่ E คือ การดูแลสิ่งแวดล้อม / S คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม / G คือ การทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและ การต่อต้านคอร์รัปชัน) ทั้งยังมอบเงิน 40% ของค่าธรรมเนียมการจัดการที่เรียกเก็บจากกองทุนไปสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมต่างๆ
อย่างไรก็ดี หากไม่นับรวมการบริจาคเงินให้กับศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในครั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 จนถึงเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา BKIND มอบเงินค่าจัดการกองทุน 40% ไปแล้ว รวมกว่า 40 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการ รวม 53 โครงการ ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยแบ่งตามความช่วยเหลือในด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม การศึกษา สุขภาพ สังคม วัฒนธรรม และการต่อต้านคอร์รัปชัน พร้อมกันนี้ กองทุน BKIND ก็จะยังเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการดีๆ ต่อเนื่อง เพื่อคืนกลับให้สังคมไทยต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง