มิชลิน ร่วมต้านการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เดินหน้าผลิตหน้ากากอนามัยและกระบังหน้านิรภัย ณ โรงงาน 10 แห่งในยุโรป

จันทร์ ๑๓ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๔:๒๔
วิกฤติด้านสาธารณสุขจากไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการหน้ากากอนามัยในฝรั่งเศสและทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นมาก เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉินดังกล่าว มิชลินได้ระดมทีมงานและทรัพยากรที่มี ตลอดจนศักยภาพเชิงนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย ด้านวัสดุ การผลิต และทักษะทางวิทยาศาสตร์ มาใช้ในการพัฒนา ผลิต และส่งมอบหน้ากากอนามัยหลายรูปแบบในปริมาณมากภายใต้กรอบระยะเวลาที่สั้นที่สุด แนวทางริเริ่มดังกล่าวส่งผลให้มิชลินมีบทบาทเชิงรุกที่สำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดทั่วโลกครั้งนี้ โดยมิชลินไม่เพียงจัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้เพื่อปกป้องสุขภาพและสร้างความปลอดภัยให้กับพนักงานของมิชลินเอง แต่ยังได้บริจาคหน้ากากอนามัยจำนวนมากให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุขในประเทศที่มิชลินดำเนินธุรกิจอยู่อีกด้วย

เปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัย* ณ โรงงาน 10 แห่งในยุโรป

ขณะนี้มิชลินอยู่ระหว่างดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยประเภท

Category 1 Surgical Masks ระยะเริ่มต้น

โดยตั้งเป้าที่จะผลิตให้ได้สัปดาห์ละราว 400,000 ชิ้น ซึ่งจะเป็นการผลิตจากโรงงานของมิชลินเอง

หรือเป็นการผลิตภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือผู้รับเหมารายย่อย พื้นที่ปฏิบัติงานทั้ง 10 แห่ง**ในยุโรปที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมผลิตหน้ากากอนามัยในครั้งนี้

ครอบคลุมโรงงานที่ลากอมโบด (La Combaude) ในเมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส, ที่เมืองโอลซ์ทิน ประเทศโปแลนด์, และที่เมืองซาเลา (Zal?u) ประเทศโรมาเนีย

ทั้งนี้

การดำเนินโครงการริเริ่มเช่นเดียวกันในภูมิภาคอเมริกาเหนือจะช่วยส่งเสริมให้ศักยภาพการผลิตหน้ากากอนามัยประเภทดังกล่าวในยุโรปขยายตัวขึ้นในสัปดาห์ต่อๆ

ไป

ร่วมกับหลายบริษัทภายใต้การนำและการประสานงานของกลุ่มบริษัท VOC-COV ในเมืองเกรอน็อบล์ (Grenoble) ประเทศฝรั่งเศส ออกแบบหน้ากากอนามัยที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้และดำเนินการผลิตในปริมาณมาก

หน้ากากอนามัยแบบ OCOV(R)FMP1 หรือ FMP2 ซึ่งพัฒนาและผลิตขึ้นภายในระยะเวลาสั้นเป็นประวัติการณ์ในเขตโอแวร์ญ-โรนาลป์ (Auvergne-Rhone-Alpes) ของฝรั่งเศส

เป็นหน้ากากอนามัยที่ราคาไม่แพงและมีความยั่งยืน

โดยสามารถผลิตได้ในปริมาณมากและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ถึง 100 ครั้ง

เนื่องจากใช้แผ่นกรองแบบ 5 ชั้นที่สามารถซักและเปลี่ยนแผ่นกรองได้

ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเดินเครื่องผลิตหน้ากากดังกล่าวล็อตต้นแบบจำนวน

5,000 ชิ้น

โดยตั้งเป้าที่จะผลิตหน้ากากให้ได้ 1 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ภายในเดือนพฤษภาคม

ซึ่งจะทำให้ยอดการผลิตหน้ากากทั้งสิ้นอยู่ที่มากกว่า 5

ล้านชิ้นภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบในเชิงการใช้งานจะเทียบเท่าหน้ากากแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งจำนวน

500 ล้านชิ้น

ผลิตกระบังหน้านิรภัยจากโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate Protective Visor) ที่ผ่านกระบวนการทำให้ปราศจากเชื้อสำหรับใช้งานในโรงพยาบาล

เนื่องจากโรงพยาบาลหลายแห่งในฝรั่งเศสมีความต้องการใช้งานกระบังหน้านิรภัยเพิ่มขึ้น

มิชลินจึงได้เปิดสายการผลิตกระบังหน้านิรภัยจากโพลีคาร์บอเนตที่ผ่านกระบวนการทำให้ปราศจากเชื้อสำหรับการใช้งานของบุคลากรด้านสาธารณสุข

โดยในราวต้นสัปดาห์หน้า

กลุ่มมิชลินจะเริ่มบริหารจัดการการผลิตกระบังหน้านิรภัยจำนวน 10,000 ชิ้น

ด้วยการว่าจ้างให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจากภายนอกเป็นผู้ดำเนินการผลิต

นอกจากนี้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มิชลินยังได้รุกดำเนินโครงการริเริ่มหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องช่วยหายใจ, ชิ้นส่วนอุปกรณ์การแพทย์, หมอนรองส่วนต่างๆ ของร่างกายสำหรับผู้ป่วย และเจลล้างมืออนามัยแบบไม่ต้องใช้น้ำ

เกี่ยวกับมิชลิน

มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็องประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 127,000 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิตยาง 69 แห่ง ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 200 ล้านเส้นในปี 2562 คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th

* ในยุโรปเรียกว่า surgical mask ส่วนในสหรัฐอเมริกาเรียกว่า face

mask

**

พื้นที่ปฏิบัติงานทั้ง 10 แห่งในยุโรป ได้แก่ เมืองบัมแบร์ค (Bamberg)

ประเทศเยอรมนี; เมืองบูร์ช (Bourges), เขตลากอมโบด (La Combaude)เมืองแกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand), เมืองโกลบีย์

(Golbey), เมืองชูเลส์ตูร์ (Joue les Tours) และเขตลาดูซ์ (Ladoux) ในเมืองแกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand) ประเทศฝรั่งเศส; เมืองอะเลสซานเดรีย (Alessandria) และเมืองคูเนโอ (Cuneo) ประเทศอิตาลี; เมืองโอล์ซทิน (Olsztyn) ประเทศโปแลนด์ และเมืองซาเลา (Zal?u) ประเทศโรมาเนีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version