กระเทียม สมุนไพรคู่ครัวไทย ในยุคโรคระบาด

อังคาร ๑๔ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๖:๑๘
ในยามที่สถานการณ์โรคระบาดกำลังตึงเครียดขึ้นทุกที ประเทศไทยก็ยังมีความโชคดีที่เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารการกินรวมถึงสมุนไพรนานาชนิด เรียกว่าอาหารเป็นยา มีให้เลือกกินมากมาย โดยเฉพาะเวลานี้ทางใดที่จะป้องกันหรือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงก็อาจจะต้องนึกถึงสมุนไพรคู่ครัวไทยอย่าง “กระเทียม” ที่หาง่าย ราคาถูก แต่ให้สรรพคุณเกินตัว

น.ส.นภนวลพรรณ สุวรรณวัฒน์ แพทย์แผนไทย จากร้านสมุนไพรสบายใจ กล่าวว่า “กระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้เป็นอาหารและยาพื้นบ้านของไทยมานาน มีรสเผ็ด กลิ่นฉุน นิยมใช้เป็นส่วนประกอบอาหารไทยหลายชนิด โดยแพทย์แผนไทยใช้กระเทียมรักษาโรคกลาก เกลื้อน แก้ไอ ลดอาการจุกเสียด” ทั้งนี้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็มีการค้นพบคุณประโยชน์ของกระเทียมไว้มากมาย เช่น มีส่วนช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียแทบทุกชนิด ป้องกันการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ต้านไวรัสบรรเทาอาการหวัด เรียกว่าอร่อยและยังมีคุณประโยชน์หลายด้าน

ภูมิต้านทานโรค นับเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ภูมิต้านทานเป็นเสมือนเกราะคุ้มกันที่ต้องเสริมกำลังให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ ซึ่งในกระเทียมมีสารสำคัญชนิดหนึ่ง คือ “อัลลิซิน” มีคุณสมบัติเด่นในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Macrophaqes ซึ่งเป็นตัวกำจัดสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อโรคร้ายต่างๆ มีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสและเชื้อรา จึงลดความรุนแรงของอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ อีกทั้งยังมีสาร S – allycystein (SAC) ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้อีกทางหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรมองข้ามสมุนไพรใกล้ตัวอย่างกระเทียม ที่ควรหามารับประทานเป็นประจำทุกวัน

การรับประทานกระเทียม ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ส่วนมากเมื่อรับประทานอย่างเหมาะสม ข้อเสียอาจทำให้มีกลิ่นปาก แสบร้อนในปากหรือกระเพาะ ปัจจุบันจึงมีการพัฒนากระเทียมในรูปแบบสารสกัดบรรจุเป็นแคปซูล เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นไม่พึงประสงค์ และกระบวนการละลายของเม็ดแคปซูลที่ย่อยสลายช่วงลำไส้เล็กเหมาะแก่การดูดซึม และไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร โดยปริมาณที่แนะนำต่อวันคือวันละ 300 – 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 1-2 แคปซูล วันละ 1-2 เวลา

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกระเทียม หรือจากสมุนไพร ควรเลือกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ปริมาณของสารสำคัญ ปริมาณบริโภคต่อวัน ตลอดจนจำหน่ายในร้านค้าที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ หรือมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ เพื่อการรับประทานที่ปลอภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกาย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๖ เอ็ม บี เค เปิดโลกนวัตกรรมยานยนต์แห่งสายน้ำสุดล้ำสมัย มหกรรมเรือยิ่งใหญ่แห่งปีกับงาน Riverdale Marina Boat Fair # 3 วันที่ 5-9 มี.ค.
๑๖:๓๑ พาส่องเทรนด์การท่องเที่ยว 'Conscious travel' นักท่องเที่ยวไทยพักผ่อนในโรงแรมนานขึ้น พร้อมมองหาประสบการณ์สุดพิเศษ
๑๖:๒๘ อาการสั่น. สัญญาณเตือนโรคร้ายทางสมอง
๑๖:๓๙ เปิดมุมมองการประเมินคุณภาพภายนอกปี 2567 - 2571 ในรูปแบบ การประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
๑๖:๔๒ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมมือ ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ พัฒนาแพลตฟอร์ม 'Flips IP' เปลี่ยนทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล
๑๖:๐๐ Jelly Bunny ส่งต่อความสดใสไปกับคอลเลกชั่น Lost in the Sunshine ต้อนรับฤดูกาลแฟชั่นสปริง - ซัมเมอร์ 2025
๑๖:๕๐ SAPPE โชว์ผลประกอบการปี 67 ทำ All Time High ยอดขายแตะ 6,775 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,252 ล้านบาท
๑๖:๓๑ SCN ออกหุ้นกู้ 2 ชุด กำหนดดอกเบี้ยคงที่ 7.00-7.25% เปิดขาย 26-27 ก.พ. นี้ ผ่านบล.ยูโอบี และบล.เคพีเอ็ม รับแผนเร่งเกมเดินหน้าขยายและต่อยอดธุรกิจปี
๑๖:๔๖ ลดยกเกาะรับซัมเมอร์ !! โฮมโปร-เมกาโฮม เสิร์ฟดีลคุ้ม 5 สาขาเกาะภูเก็ต ครบเรื่องบ้าน-งานช่าง แจกทั้งส่วนลด รับคืนสูงสุด 8,900 บาท เริ่ม 22 ก.พ. 68 นี้ 9
๑๖:๑๘ เมย์แบงก์ เกาะกระแส AI จัดสัมมนาการลงทุนพิเศษ AI on the Rise เจาะลึกตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับนักวิเคราะห์ดังระดับโลกจากวอลล์สตรีท