นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า ในส่วนของสำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขต 50 เขต ได้สำรวจตรวจสอบ และดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ใหญ่ให้อยู่ในสภาพแข็งแรง มีทรงพุ่มที่สมดุล สางโปร่ง ตัดทอนความสูง เพื่อลดแรงปะทะของลมและฝน รวมทั้งตรวจสอบวัสดุค้ำยันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ แข็งแรง มีความมั่นคง สามารถพยุงค้ำยันต้นไม้ใหญ่ได้ ส่วนต้นไม้ที่มีความเสี่ยงที่จะโค่นล้ม เช่น ลำต้นเป็นโพรงเสียหายถึงเนื้อไม้ รากลอย ต้นเอียงเสียสมดุล อาจพิจารณาขุดล้อมออก เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา และเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ ยานพาหนะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงานทันที อีกทั้งได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วน บุคคลโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อป้องกันโรคโควิด - 19 อีกด้วย
นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า สำนักการโยธาได้แจ้งให้เจ้าของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของป้ายเป็นประจำ หากพบความชำรุดหรืออาจไม่ปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของประชาชนให้ดำ เนินการรื้อถอน รวมทั้งดำเนินคดีกับป้ายที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้นยังได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงกับ ป้ายทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากป้ายล้มในช่วงที่มีลมกระโชกแรง ตลอดจนตรวจสอบปั้นจั่นในโครงการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร ร่วมกันระหว่าง กทม. กรมโยธาธิการและผังเมือง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะอนุกรรมการวิศวกรรมยกหิ้วและปั้นจั่นไทย ตามแบบรายงานตรวจสอบปั้นจั่นในการก่อสร้าง เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และคู่มือการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย