นพ. สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “การแพร่ระบาดของไวรัส มีโอกาสที่จะท่าทีสงบในเร็ววัน หากพวกเราทุกๆ คนช่วยกันป้องกันตนเองตามมาตรการของภาครัฐ โดยเฉพาะ Social Distancing และเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสนับสนุนที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างยันฮี วิตามิน วอเตอร์ และพันธมิตรทั้ง 2 จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่มากก็น้อย เราขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างยิ่ง”
นายยาช โลเฮีย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสยังเพิ่มขึ้น พวกเราทุกคนรู้สึกซาบซึ้งใจในความทุ่มเทของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรต่างๆ ที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทั่วประเทศ การสนับสนุนครั้งนี้เป็นการแสดงความขอบคุณ และเรายังคงมองหาวิธีการในการช่วยเหลืออื่นๆที่สามารถทำได้เพิ่มเติม”
นายเควิน ชาร์มา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกซาบซึ้งในความกล้าหาญของบุคลากรทางการแพทย์ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ทาง TPAC มีส่วนในการช่วยบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่กำลังปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่” ทั้งนี้ โรงพยาบาลที่ยินดีจะรับน้ำดื่มยันฮี วิตามินวอเตอร์แล้ว ได้แก่ สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล สถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นนทบุรี ฯลฯ
ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างองค์กร โดยไอวีแอลได้ผลิตขวด PET และ TPAC ผลิตฝาขวดที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับ ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ มาตั้งแต่ปี 2560 และด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้น ไอวีแอล วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตขวด PET ที่โรงงานในจังหวัดนครปฐม โดยลงทุนประมาณ 75 ล้านบาท ด้วยกำลังการผลิต 250 ล้านขวดต่อปี ซึ่งจะช่วยให้ ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ สามารถสนับสนุนความเป็นอยู่ของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
เกี่ยวกับ อินโดรามา เวนเจอร์ส
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Bloomberg ticker IVL.TB) เป็นหนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำระดับโลก มีโรงงานผลิตครอบคลุมภูมิภาคหลักทั่วโลก ได้แก่ แอฟริกา เอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยมีกลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจ Integrated PET ธุรกิจโอเลฟินส์ ธุรกิจเส้นใย ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) ผลิตภัณฑ์ของไอวีแอลรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลส่วนบุคคล และอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางในรถยนต์และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานทั่วโลกราว 24,000 คนและมีรายได้จากการขายรวม 10.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 บริษัทฯ เป็นสมาชิกดัชนีดาวโจนส์ (DJSI) และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยและมีโรงงานทั่วโลก อันได้แก่
ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา: เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี เดนมาร์ก ลิทัวเนีย โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ลักเซมเบิร์ก สเปน ตุรกี ไนจีเรีย กานา โปรตุเกส อิสราเอล อียิปต์ รัสเซีย สโลวาเกีย ออสเตรีย บัลกาเรีย อเมริกา: สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก แคนาดา บราซิล เอเชีย: ไทย อินโดนีเซีย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ ออสเตรเลีย