โดยล่าสุดได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ ได้แก่ “เพ็ตติ โคโม” แบรนด์ที่เป็นไลน์ของเมคอัพ สีสันต่างๆ ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ 4 SKUs คือ โรลลิ่ง ป็อปเมคอัพเบสสีชมพูประกายไข่มุก และ ทรีทเมนท์เปลี่ยนสีผมชั่วคราว มี 3 สี ได้แก่ สีโรสพิงค์ สีโกลด์บราวน์ และ สีแอชบราวน์ ส่วนอีกแบรนด์ หนึ่งคือ “บานาน่า สตอรี่” เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า โดยทางเราจะเลือกใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ได้แก่ ครีมสำหรับทาก่อนนอน (มอยส์เจอร์ไรเซอร์), ผงทำความสะอาดผิวหน้า, เซรั่มและครีมกันแดดสูตรเย็น
“นอกจากคุณภาพแล้ว จุดเด่นของทั้ง 2 แบรนด์ คือคอนเซ็ปต์ Eco-Friendly Packaging เพื่อตระหนักถึงปัญหาขยะล้นโลก หรือแม้แต่ปัญหามลพิษทางทะเล เช่น สิ่งที่ย่อยสลายยากอย่างพลาสติก ทางแบรนด์จึงมีแนวคิดที่จะลดขยะพลาสติก โดยได้เลือกใช้กระดาษคราฟท์ มาทำเป็นบรรจุภัณฑ์”
นายจอง ฮุน ซ็อง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับราคาจำหน่ายของ “เพ็ตติ โคโม” กับ “บานาน่า สตอรี่” ราคาซองละ 49 บาท โดยปริมาณจะขึ้นอยู่กับสินค้าแต่ละชิ้น ซึ่งปริมาณแต่ละประเภทสินค้าจะไม่เท่ากัน วางจำหน่ายในประเทศไทย เฉพาะที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น เท่านั้น ทั้งหน้าร้าน เซเว่นฯ และเซเว่น ฯออนไลน์ ในขณะเดียวกันทางแบรนด์มีช่องทางสำหรับประชาสัมพันธ์อีกช่องทางคือ โซเชียลมีเดีย เพราะเป็นสื่อที่มีผู้นิยมใช้กันมาก จะมี Facebook Fanpage / Instagram Official เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้า แนะนำวิธีใช้สินค้า หรือแม้แต่กิจกรรมให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์อีกด้วย
“ขณะนี้มีโปรชั่นเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ในราคาพิเศษ 2 ชิ้น 69 บาท โดยสามารถคละสินค้าได้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 เมษายน 2563ในอนาคตจะมีโปรโมชั่นออกมาอย่างสม่ำเสมอ และกิจกรรมพิเศษสำหรับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในรูปแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้แบรนด์ของเราได้ร่วมกับเซเว่น อีเลฟเว่น จัดกิจกรรมเพื่อสังคม CSR ขึ้น เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าแบรนด์เราก็เท่ากับเป็นผู้ที่บริจาครายได้ส่วนหนึ่งให้กับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าและทะเล เพราะทางเราจะนำรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว มอบให้มูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล ซึ่งเรามีแผนการจัดทำกิจกรรมนี้ 6 เดือน ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 23 กันยายน 2563”
ผู้บริหาร บริษัท แม็กซ์ เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด ยังได้กล่าวด้วยว่า ทางด้านกลยุทธ์การทำธุรกิจนั้นจะอัพเดตให้ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคสื่อดิจิทอลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้หลายรูปแบบ ในฐานะที่เราเป็นผู้ประกอบการจึงควรปรับตัวให้ทันต่อโลก และเข้าใจ เข้าถึงผู้บริโภค โดยวิธีการประชาสัมพันธ์จะเลือกใช้สื่อดิจิทัลเป็นสื่อหลัก นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมการบริจาคให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งแนวคิดของเรา คือต้องการให้ผู้บริโภครู้สึกราวกับว่าพวกเขามีส่วนร่วมกับกิจกรรมนั้นอีกด้วย
“และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ในเมืองไทยยังอยู่ในขั้นวิกฤตและรุนแรง ส่งผลให้หลายๆคนหลีกเลี่ยงที่จะออกจากบ้าน ทำให้ทั้งเศรษฐกิจซบเซามากยิ่งขึ้น การที่จะทำกิจกรรม Offline ทั้งอีเวนท์ต่างๆ จึงไม่สามารถจัดขึ้นตอนนี้ได้ ทางเราเลยหันมาเน้นการโปรโมตการทำกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์แทน และในช่วงสภาวะการแข่งขันที่สูงในไทย อย่างในเซเว่น-อีเลฟเว่น สินค้าประเภทซองก็มีจำนวนมาก แต่ด้วยคอนเซ็ปต์ Eco-Friendly Packaging ของแบรนด์เรา บวกกับกระแสรักษ์โลกกำลังมาแรง จึงทำให้แบรนด์เราต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง โดยในอนาคตทางบริษัทมีโครงการช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนมูลนิธิต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง” นายจอง ฮุน ซ็อง กล่าวในท้ายที่สุด