ฟิทช์ ปรับลดอันดับเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ เป็น A-(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ

พุธ ๒๒ เมษายน ๒๐๒๐ ๐๙:๕๑
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ ของบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เป็น 'A-(tha)’ จาก 'A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวสำหรับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกันของบริษัทฯ เป็น 'A-(tha)’ จาก 'A(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของบริษัทฯ เป็น 'F2(tha)’ จาก 'F1(tha)’

การปรับลดอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS น่าจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของ BAFS เป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก การลดลงของอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินของโลก ซึ่งมีความไม่แน่นอนและไม่น่าจะรวดเร็วนักในปี 2564

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

การฟื้นตัวที่ล่าช้าจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส: ฟิทช์คาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานของ BAFS จะลดลงร้อยละ 52-53 ในปี 2563 หลังจากการประกาศยกเลิกเที่ยวบินเกือบทั้งหมดเป็นเวลา 1-2 เดือนโดยสายการบินหลักๆ โดยเฉพาะสายการบินที่มีศูนย์การบินหลักอยู่ที่สนามบินในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยฟิทช์มองว่าอัตราการฟื้นตัวไม่น่าจะรวดเร็วนัก และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่มีต่ออุตสาหกรรมการบินของโลกน่าจะมีความยืดเยื้อ ฟิทช์คาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานจะปรับตัวกลับมาอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 70 และร้อยละ 90 ของระดับก่อนการเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ในปี 2564 และปี 2565 ตามลำดับ ซึ่งทำให้สถานะทางการเงินของ BAFS อ่อนแอลงจากอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้น

อัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้น: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS ที่วัดจากหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงาน (FFO net leverage) จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 13 เท่าในปี 2563 (ปี 2562 อยู่ที่ 3 เท่า) อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS จะลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 7 เท่า จากการค่อยๆ ฟื้นตัวของปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในปี 2564 และลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันในปี 2565

ค่าใช้จ่ายลงทุนที่สูง: การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแผนค่าใช้จ่ายลงทุนที่สูงประมาณ 2.7 พันล้านในช่วงปี 2563-2564 ซึ่งส่วนใหญ่คือสำหรับโครงการขยายท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือของประเทศไทย ที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ FPT ซึ่งบริษัทย่อยของ BAFS ฟิทช์คาดว่าโครงการดังกล่าวน่าจะแล้วเสร็จ ณ สิ้นปี 2563 (เลื่อนมาจากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2563)

การลงทุนใหม่ที่อาจเกิดขึ้น: BAFS ได้มีการเข้าร่วมประมูลในรูปกิจการร่วมค้า สำหรับโครงการระบบเติมน้ำมันอากาศยานของสนามบินอู่ตะเภาแห่งใหม่ ซึ่งจะเป็นสนามบินหลักในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS น่าจะเพิ่มสูงขึ้น หากกิจการร่วมค้าของ BAFS ชนะการประมูล นอกจากนี้ BAFS ยังมีการศึกษาหาโอกาสทางการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งฟิทช์อาจมีการพิจารณาทบทวนอันดับเครดิตของ BAFS เมื่อมีการลงทุนเกิดขึ้น

ความเสี่ยงด้านอุปสงค์ของโครงการท่อขนส่งน้ำมัน: โครงการท่อขนส่งน้ำมันของ FPT ซึ่งเป็นท่อขนส่งน้ำมันเส้นแรกในภาคเหนือของประเทศไทย มีความเสี่ยงในการหาลูกค้าเพื่อมาใช้บริการ โครงการระยะที่ 1 ได้เปิดดำเนินการและให้บริการขนส่งน้ำมันส่วนหนึ่งให้แก่บริษัทน้ำมันรายใหญ่ในประเทศไทยเกือบทุกราย แม้ว่าจะยังไม่มีสัญญาระยะยาวในการขนส่งน้ำมัน ฟิทช์เห็นว่าความเสี่ยงในการหาลูกค้ามาทำสัญญาได้รับการบรรเทาลงจากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันในบริเวณที่ท่อขนส่งน้ำมันให้บริการที่มีอย่างต่อเนื่อง ค่าบริการที่แข่งขันได้กับการขนส่งด้วยวิธีการอื่น โดยเฉพาะทางรถบรรทุก นอกจากนี้ ฟิทช์เห็นว่าการเปลี่ยนวิธีขนส่งน้ำมันมาใช้ระบบท่อขนส่ง น่าจะมีปัจจัยสนับสนุนจากเหตุผลด้านความปลอดภัย สังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง: BAFS เป็นผู้ให้บริการคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Depot Service) และเครือข่ายท่อจ่ายน้ำมันอากาศยาน (Hydrant Pipeline Network) แต่เพียงรายเดียว และเป็นผู้ให้บริการหลักในการเติมน้ำมันอากาศยาน (โดยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 89) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงเป็นผู้ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานแต่เพียงรายเดียว ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง BAFS อยู่ในธุรกิจที่มีการแข่งขันน้อยและได้รับประโยชน์จากอุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจที่สูงของผู้บริการรายใหม่ เนื่องจากผู้ให้บริการต้องได้รับการอนุญาตจากท่าอากาศยานนั้นๆ จึงจะให้บริการได้ ในขณะที่โครงการท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือของประเทศไทยของ FPT น่าจะช่วยทำให้ BAFS มีการการะจายความเสี่ยงทางธุรกิจที่ดีขึ้นและมีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า

ความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาน้ำมันที่จำกัด: BAFS ไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน เนื่องจาก BAFS จะเรียกเก็บเฉพาะค่าบริการเติมน้ำมันจากบริษัทน้ำมันเท่านั้น (โดยบริษัทน้ำมันเป็นผู้ขายน้ำมันให้แก่สายการบิน) นอกจากนี้ ต้นทุนหลักของ BAFS เป็นค่าสัมปทานซึ่งเป็นอัตราที่ตกลงกันก่อนตามสัญญา ทำให้อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรของ BAFS ค่อนข้างคงที่

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป

ลักษณะของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ BAFS มีความคล้ายคลึงกับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ A+(tha)/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นบริษัทหลักในกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศที่ BBB+ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) รายได้ของ GPSC ส่วนใหญ่มาจากสัญญาการขายไฟฟ้าและไอน้ำ กับลูกค้าซึ่งมีสถานะทางธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่ง ดังนั้น ทั้งสองบริษัทจึงมีรายได้ที่สม่ำเสมอและสามารถคาดการณ์ได้ แต่ธุรกิจของ GPSC น่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยกว่า แม้ว่าปัจจุบัน GPSC จะมีอัตราส่วนหนี้สินที่สูงกว่า BAFS แต่ก็ชดเชยด้วยสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกว่าด้วยขนาดของธุรกิจที่ใหญ่กว่า ซึ่งสะท้อนถึงการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินงานที่ดีกว่า โดยเฉพาะหลังจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า รวมถึงลักษณะรายได้ที่มีสัญญาระยะยาวรองรับ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินของ BAFS น่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ซึ่งน่าจะยืดเยื้อเกินกว่าปี 2564 ดังนั้น BAFS จึงมีอันดับเครดิตต่ำกว่าสถานะเครดิตโดยลำพังของ GPSC ที่ a(tha) โดยอันดับเครดิตของ GPSC ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับเพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์ในระดับปานกลางกับกลุ่ม ปตท.

เมื่อเปรียบเทียบกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ A(tha)/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย BAFS มีรายได้ที่สามารถคาดการณ์ได้ในระดับสูงกว่า CP ALL แต่ CP ALL มีสถานะในการแข่งขันที่แข็งแกร่งมาก ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่นับจากจำนวนร้านค้าที่มากกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่อันดับที่สองเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ CP ALL ยังขายสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้มีความผันผวนในรายได้และอัตรากำไรที่ต่ำ CP ALL มีขนาดของธุรกิจและกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ใหญ่กว่า BAFS มาก ปัจจุบัน BAFS และ CP ALL มีอัตราส่วนหนี้สินอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม CP ALL กำลังอยู่ในกระบวนการเข้าซื้อกิจการเทสโก้โลตัส ซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หากการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวสำเร็จ อัตราส่วนหนี้สินของ CP ALL น่าจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งชดเชยกับสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งขึ้นและขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินของ BAFS น่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ดังนั้น BAFS จึงได้รับการจัดอันดับเครดิตต่ำกว่า CP ALL หนึ่งระดับ

สมมุติฐานที่สำคัญ

สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ

ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานลดลงในอัตราร้อยละ 52-53 ในปี 2563 และฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 70 และร้อยละ 90 ของระดับก่อนการเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ในปี 2564 และปี 2565 ตามลำดับ รายได้ของ FPT ลดลงในอัตราร้อยละ 24-25 ในปี 2563

-โครงการขยายท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือของประเทศไทยระยะที่ 2 แล้วเสร็จ ณ สิ้นปี 2563 และเริ่มสร้างรายได้ในต้นปี 2564 โดยทำให้รายได้ของ FPT มีการเติบโตในอัตราร้อยละ 52-54 ในปี 2564 และประมาณร้อยละ 40 ในปี 2565อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA Margin) ในปี 2563 ลดลงมาอยู่ในระดับร้อยละ 27-28 และเพิ่มกลับขึ้นมาอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 40 ในปี 2564 และร้อยละ 52-53 ในปี 2565 ค่าใช้จ่ายลงทุนจำนวนประมาณ 1.8 พันล้านบาทในปี 2563 จำนวน 850 ล้าน- 870 ล้านบาทในปี 2564 และจำนวน 400 ล้าน-450 ล้านบาทในปี 2565 ซึ่งได้รวมเงินลงทุนในโครงการขยายท่อขนส่งน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับแผนการขยายสนามบินดอนเมือง

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยลบ:

อัตราส่วนหนี้สินที่วัดจากหนี้สินสุทธิที่ต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงาน (FFO net leverage) ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 5.0 เท่าหลังจากปี 2564

ปัจจัยบวก:

แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับกลับมาเป็นมีเสถียรภาพ หากปริมาณสัญจรทางอากาศและปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานของ BAFS ฟื้นตัวเร็วกว่าที่ฟิทช์คาด ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่วัดจากหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงาน (FFO net leverage) ของ BAFS ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 5.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง

สภาพคล่อง

สภาพคล่องที่แข็งแกร่ง: BAFS มีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดเงินสดคงเหลือที่เพียงพอ และระยะเวลาการชำระหนี้คืนที่มีการกระจายตัวที่ดี ณ สิ้นปี 2562 BAFS มีหนี้สินระยะยาวจำนวน 530 ล้านบาทซึ่งจะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ BAFS มี ยอดเงินสดคงเหลือและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 2.0 พันล้านบาท นอกจากนี้สภาพคล่องของ BAFS ยังได้รับการสนับสนุนจากวงเงินสินเชื่อแบบผูกพันไว้แล้วที่ยังไม่ได้เบิกถอน (Undrawn Committed Facility) จำนวน 1.1 พันล้านบาท ณ สิ้นเปี 2562 นอกจากนี้ BAFS ยังเพิ่งออกหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันจำนวน 1 พันล้านบาทและได้รับวงเงินกู้ยืมในลักษณะ Project Finance เพิ่มเติมอีก 1.1 พันล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ที่ผ่านมา ดังนั้นสภาพคล่องของ BAFS น่าจะเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายลงทุนที่เหลืออยู่สำหรับโครงการขยายท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ