จิตเวชโคราช ห่วงโรคโควิด-19 กระทบใจผู้ป่วยซึมเศร้า ! แนะอย่าขาดยา!! ส่วนญาติให้ใช้ยาชูใจด้วย “ 3 ควร 3ไม่” ดูแล!

ศุกร์ ๒๔ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๕:๐๐
รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ

ห่วงสุขภาพใจผู้ป่วยโรคซึมเศร้าใน 4 จังหวัดอีสานตอนล่างที่อาการดีแล้ว

อาจได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 แนะให้กินยาต่อเนื่อง อย่าขาดยา เน้นให้มองปัญหาแยกแยะและเริ่มแก้ที่ส่วนย่อย

ส่วนญาติแนะเพิ่มยาชูใจ ใช้หลัก 3 ควร เช่น

พูดคุยรับฟังให้มาก และหลัก 3 ไม่ เช่น

ไม่กดดันเร่งรัดผู้ป่วย หากมีปัญหาโทรปรึกษาสายด่วนรพ.จิตเวชฯหมายเลข 06

1023 5151 ,0 4423 3999 หรือ1323 ตลอด24 ชั่วโมง

นายแพทย์กิตต์กวี

โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า

ขณะนี้รพ.จิตเวชฯได้เร่งจัดบริการดูแลสุขภาพจิตประชาชน เพื่อลดผลกระทบทางจิตใจจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันได้เร่งป้องกันปัญหาไม่ให้ซ้ำเติมผู้ที่ป่วยอยู่เดิมตามนโยบายของอธิบดีกรมสุขภาพจิต

กลุ่มที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในช่วงนี้คือผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นโรคทางอารมณ์ที่พบมาก

สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ทำให้ผู้ป่วยมีจิตใจและความคิดที่เปราะบางอ่อนไหวง่าย

มีอาการซึมเศร้า เบื่อหน่าย หดหู่ ท้อแท้ ในพื้นที่

4 จังหวัดอีสานตอนล่างคือนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์

และสุรินทร์ ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ในระบบดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง 100,000 กว่าคน โรคนี้จำเป็นต้องได้รับยาควบคุมในระยาว

เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง อาการเศร้าจะหายไป จิตใจแจ่มใสขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวัน

ประกอบอาชีพได้ตามปกติ

แต่หากผู้ป่วยได้รับสิ่งรุมเร้ากดดันทางจิตใจ มีทุกข์ทางใจเพิ่มขึ้น ก็อาจมีผลให้อาการรุนแรงขึ้นได้ง่ายกว่ากลุ่มคนอื่นๆ

จึงต้องดูแลทั้งตัวผู้ป่วยเอง และญาติหรือคนรอบข้างไปพร้อมๆ

กัน

ในการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วย มีคำแนะนำ 6 ประการดังนี้ 1. ให้กินยาให้ต่อเนื่อง ครบตามจำนวน และตรงเวลาตามที่แพทย์สั่ง

แม้ว่าอาการจะสบายดีแล้วก็ตาม

อย่าขาดยาอย่างเด็ดขาด

การกินยาที่มีความต่อเนื่องจะทำให้จิตใจและอารมณ์มีความคงที่ อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะช่วยให้เราสามารถทนต่อสิ่งกดดันภายนอกที่รุมเร้าได้ดี

อยากจะสู้ปัญหา ไม่เกิดความรู้สึกสิ้นหวัง 2.ปรับลดความคาดหวังเป้าหมายให้พอดี

เพื่อลดความกดดันตนเอง 3.ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยมองปัญหาแบบแยกแยะ ให้เป็นส่วนย่อยๆ และจัดเรียงความสำคัญก่อนหลัง แล้วลงมือปฏิบัติ จะช่วยให้รู้สึกว่าเรายังมีพลังทำอะไรได้ 4.ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ปรับวิธีการตามความเหมาะสมกับสถานที่

จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจดีขึ้น 5 .

เลือกทำกิจกรรมที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกดี มีความสุข ซึ่งมักจะเป็นที่เราเคยชอบ และ 6. อย่าเก็บความทุกข์ใจไว้คนเดียว ขอให้พูดคุย

ปรึกษาปัญหากับผู้ที่เราใกล้ชิดให้ช่วยคิด มีหนทางคลี่คลาย

สำหรับในกลุ่มญาติและคนรอบข้าง

ขอให้ยึดหลักสำคัญ 2 ประการ ที่เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหายป่วย

อาการไม่ทรุด คือ ดูแลให้กินยาอย่างต่อเนื่องตรงตามเวลาที่แพทย์สั่ง และดูแลเรื่องกำลังใจ

เพื่อให้ผู้ป่วยมองเห็นข้อดี คุณค่าของตัวเอง มีกำลังใจต่อสู้

อยากมีชีวิตอยู่ โดยมีคำแนะนำให้ญาติยึดวิธีการดูแลใจผู้ป่วยด้วยหลัก

3 ควร และ3 ไม่ ดังนี้

หลัก

3 ควร ที่ควรทำประกอบด้วย 1. รับฟังผู้ป่วย

ด้วยความใส่ใจเข้าใจ โดยไม่ตัดสินใจใดๆแทน

เนื่องจากอารมณ์ของผู้ป่วยซึมเศร้าจะอ่อนไหวมาก หลายครั้งเข้าใจยาก

การรับฟังกันจะช่วยให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกดีขึ้นว่ามีคนพร้อมที่จะเข้าใจในตัวเขาอย่างแท้จริง

2. อยู่เคียงข้างและเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดีหรือรู้สึกทำให้แย่ออกมา

จะเป็นวิธีการช่วยให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลายความตึงเครียดในใจลงได้อย่างมาก 3.สร้างพลัง ชวนผู้ป่วยให้ลุกมาทำกิจกรรมเพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหว

เช่น เล่นกีฬาเบาๆ เล่นเกม ทำงานอดิเรกเช่นปลูกต้นไม้ นอกจากจะช่วยลดความฟุ้งซ่าน

ลดความหดหู่แล้ว การได้เคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยให้เกิดการหลั่งสารเอ็นโดรฟีน

หรือสารแห่งความสุข ทำให้จิตใจผู้ป่วยสดชื่น แจ่มใส เบิกบาน

หลัก

3 ไม่ ที่ญาติพึงตระหนักอยู่เสมอ ได้แก่ 1.

อย่าบอกปัดผู้ป่วย

เนื่องจากจะทำให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกทันทีว่าไม่มีที่พึ่งพา

หรือรู้สึกว่าตนเองเป็นที่รำคาญ 2. อย่าทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่ผู้ป่วยพูด

จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกแย่ลง และ3. อย่าใช้คำพูดกดดันหรือเร่งรัดผู้ป่วย เช่นพูดว่าเมื่อไหร่จะหาย จะยิ่งทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกดดัน ผิดหวังว่าตนเองเป็นบุคคลที่น่ารำคาญ

เป็นภาระ

ทั้งนี้ขอให้ญาติสังเกตอาการกำเริบของผู้ป่วย

เช่น มีอารมณ์เศร้า ไม่หลับไม่นอน ไม่รับประทานอาหาร แยกตัว หรือดื่มเหล้า

สูบบุหรี่ ขอให้รีบพาไปสถานพยาบาลใกล้บ้าน

หรือโทรปรึกษาที่สายด่วนของรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ หมายเลข 06 1023 5151 และ 0 4423 3999 หรือสายด่วนกรมสุขภาพจิต หมายเลข 1323

ตลอด24 ชั่วโมง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ