การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตในครั้งนี้สอดคล้องกับการประกาศอันดับเครดิตของบริษัทแม่ของ YSTH ที่ไต้หวัน ซึ่งคือ Yuanta Financial Holding Co., Ltd (YFHC; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) เมื่อ 22 เมษายน 2563 อีกทั้งการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของ YSTH เทียบกันอันดับเครดิตของสถาบันการเงินอื่นที่มีอันดับเครดิตภายในประเทศ
พร้อมกันนี้ ฟิทช์ประกาศยกเลิกอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทและสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากบริษัทยกเลิกการออกหุ้นกู้ประเภทดังกล่าว
รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดได้แสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของ YSTH พิจารณาจากมุมมองของฟิทช์ว่าบริษัทน่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษ (extraordinary support) จากบริษัทแม่ โดยฟิทช์เชื่อว่า YSTH เป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อบริษัทแม่ (strategically important) มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกลยุทธ์ในภูมิภาคของกลุ่ม รวมถึงการดำเนินงานระหว่างบริษัทลูกและบริษัทแม่มีความใกล้ชิดกันอย่างมากและก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน (strong synergy) ทั้งนี้บริษัทแม่ยังมีสัดส่วนการสูงถึง 99.99% มีอำนาจควบคุมการบริหารงานในบริษัทลูกในระดับสูง การดำเนินงานของบริษัทมีความสอดคล้องกันกับกลุ่มบริษัทแม่ (integration) รวมถึงได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากบริษัทแม่สำหรับการดำเนินธุรกิจ
อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นของ YSTH อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของบริษัท เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
ฟิทช์อาจปรับมุมมองหรืออันดับเครดิตเป็นเชิงบวกสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศของ YSTH หากบริษัทแม่มีความสามารถในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกสูงขึ้น โดยอาจสะท้อนได้จากอันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทแม่ที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก ทั้งนี้ฟิทช์จะพิจารณาอันดับเครดิตของ YSTH เปรียบเทียบกับอันดับเครดิตภายในประเทศของสถาบันการเงินอื่นด้วย
นอกจากนี้อันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับเพิ่มขึ้นได้หากฟิทช์เชื่อว่าแนวโน้มที่บริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่สูงขึ้น เช่น บริษัทมีบทบาทในเชิงกลยุทธ์ (role in the group) ที่มีความสำคัญต่อกลุ่มบริษัทแม่เพิ่มขึ้นมาก เช่นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ YSTH มีสถานะที่สำคัญมากขึ้นและเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญอย่างมากของธุรกิจหลักทรัพย์ของกลุ่มบริษัท (core subsidiary) ทั้งนี้อาจสะท้อนได้จากความสามารถของบริษัทที่จะสร้างผลกำไรได้ไม่ต่ำกว่า 20% ของผลกำไรโดยรวมของกลุ่มบริษัทแม่และผลการดำเนินงานของบริษัทลูกสามารถส่งผลบวกต่อความสามารถในการดำเนินงานของกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ
อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นอยู่ในระดับที่สูงที่สุดของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับขึ้นได้อีก
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ YSTH หากโครงสร้างเครดิตของบริษัทแม่อ่อนแอลงและส่งผลให้อันดับเครดิตระยะยาวของบริษัทแม่ถูกปรับลดอันดับลง
นอกจากนี้อันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงได้หากโอกาสที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนเป็นกรณีพิเศษแก่บริษัทลูกลดลง เช่น บริษัทแม่ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงต่ำกว่า 75% และผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทมีบทบาทที่สูงขึ้นอย่างมาก (significant influence of the minority shareholders) หรือมีการลดลงของระดับความเชื่อมโยงทางด้านการเงินและการบริหารงานระหว่าง YSTH กับบริษัทแม่ ทั้งนี้ฟิทช์จะพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่มีอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย
การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ YSTH จะส่งผลให้อันดับเครดิตระยะสั้นของหุ้นกู้ถูกปรับลดอันดับลงเช่นเดียวกัน
รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:
YSTH:
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ จากเดิมแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'F1+(tha)’ยกเลิกอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทที่ 'AA-(tha)’ยกเลิกอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯที่ 'AA-(tha)’