มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารทิสโก้ ประกอบด้วย มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อต่อกลุ่มธุรกิจไม่เกิน 100 ล้านบาท และไม่เป็น NPL ณ วันที่ 31 ธ.ค. 62 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 23 เม.ย. - 22 ต.ค. 2563 อย่างไรก็ตามหากลูกหนี้ยังมีความสามารถในการชำระหนี้บางส่วน หรือไม่ต้องการมีภาระหนี้สะสมเป็นจำนวนมากก็สามารถชำระหนี้ส่วนที่เป็นดอกเบี้ยเข้ามาได้โดยไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อต่อกลุ่มธุรกิจไม่เกิน 500 ล้านบาท และไม่เป็น NPL ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562 ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ย 2% เป็นระยะเวลา 2 ปี และลูกค้าไม่ต้องชำระดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน โดยภาครัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบดอกเบี้ยดังกล่าว ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อได้ไม่เกิน 20% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ณ 31 ธ.ค. 2562
“ปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ไม่มากนักส่วนมากเป็นผู้ประกอบการดีลเลอร์รถยนต์ ซึ่งธนาคารได้อนุมัติวงเงินให้ความช่วยเหลือไปแล้วประมาณสองพันล้านบาท ทั้งนี้ การเร่งช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ถือเป็นความสำคัญอันดับแรกของธนาคารในระยะนี้ โดยเกณฑ์การพิจารณาจะเป็นไปตามความเสี่ยงของธุรกิจและความสามารถของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมในแต่ละกรณี เพื่อบรรเทาและแบ่งเบาภาระของลูกค้าให้สามารถผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ไปได้ โดยลูกค้าสามารถติดต่อได้ที่แผนกเอสเอ็มอีของธนาคาร หรือเข้ามาปรึกษาที่ได้สาขาของธนาคารทิสโก้ทั่วประเทศ” นายชลิตกล่าว