เนื่องจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN จึงขยายโอกาสด้านธุรกิจ ลงทุนในบริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด (SAP) เดินเกมส์โซลาร์รูฟท็อปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน ที่เรียกว่า Private PPA เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าปริมาณมากช่วงเวลากลางวัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์หลายบริษัทที่มองหาวิธีลดต้นทุนจากการดำเนินงานช่วงภาวะวิกฤตเช่นนี้
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปนั้นเป็นอีกทางเลือกที่สำคัญในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 เพราะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคเอกชนในการลดภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องลงทุนแม้แต่บาทเดียว แต่สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่มีการจำหน่ายไฟ นอกจากนี้โซลาร์รูฟท็อปยังเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาด ไม่ก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก รวมไปถึงยังช่วยลด PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในปัจจุบันอีกด้วย
ดร.ฤทธี กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางบริษัทย่อย สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด (SAP) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) ร่วมกับ บริษัท บี.ที. โอโต้พาร์ต จำกัด ขนาดติดตั้ง 1 MW และจ่อรอเซ็นต์สัญญาอีก 4 MW ในเดือนพฤษภาคมนี้ ถึงแม้ในไตรมาสแรกจะมีการชะลอตัวการเซ็นสัญญากับผู้ประกอบการออกไปบ้าง เนื่องจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 110 MW ภายในปี 2565 คิดเป็นมูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท