โซลูชันดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจของสายการบินสามารถดำเนินงานไปได้อย่างต่อเนื่อง และยังช่วยบรรเทาปัญหาด้านศักยภาพที่จำกัดของการบริการ “ขนส่งสินค้าบริเวณใต้ท้องเครื่องบิน” อันเป็นผลมาจากการหยุดบินบนเส้นทางบินระยะไกลในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ได้แพร่กระจายไปในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังช่วยให้อุตสาหกรรมการบินสามารถจัดการกับความต้องการเที่ยวบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในการขนส่งอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์อื่น ๆ จำนวนมากไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ที่ต้องบินไปเป็นระยะทางไกลได้อย่างทันท่วงที
เมื่อเปรียบเทียบกับการบรรทุกสินค้าลงบนที่นั่ง โซลูชันที่แอร์บัสพัฒนาขึ้นมานี้ จะช่วยให้การโหลดของขึ้น และลงจากเครื่องบินง่ายและรวดเร็วขึ้น รวมทั้งลด “การสึกหรอ” ของเก้าอี้โดยสาร ส่วนประโยชน์ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การเพิ่มความปลอดภัยในเรื่องการป้องกันอัคคีภัยที่รัดกุมและความสามารถในการโยงยึด ณ แรงจีหรืออัตราเร่งในระดับ 9 (9g) เพื่อป้ องกันไม่ให้สิ่งของใด ๆ เคลื่อนที่ขณะบิน
การปรับเปลี่ยนนี้เป็นบริการในนาม Airbus Service Bulletin (SB) ที่จัดให้สำหรับผู้ให้บริการด้านการบิน ภายใต้ข้อตกลงนี้ แอร์บัสทำหน้าที่กำหนดขอบเขตงานด้านวิศวกรรม พร้อมจัดการเกี่ยวกับขั้นตอนในการขอใบรับรองประเภทครั้งเดียวจากองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) โดย ขอบเขตการทำงานประกอบด้วยการถอดเก้าอี้ โดยสารและระบบความบันเทิงบนเครื่องบินออก การติดตั้งพาเลทสำหรับวางสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย รวมถึงการติดตั้งส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมเพื่อพร้อมสำหรับการให้บริการผู้โดยสาร แนวทางการให้บริการแบบ SB จะยังคงครอบคลุมไปจนพ้นช่วงการระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว
เกี่ยวกับแอร์บัส
แอร์บัสเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเกี่ยวกับอากาศยาน อวกาศ และการบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในปี พ.ศ. 2562 แอร์บัสมี รายได้ 07 พันล้านยูโร และมีการจ้างงานราว 135,000 คน แอร์บัสมีเครื่องบินโดยสารที่ครอบคลุมมากที่สุด แอร์บัสยังเป็นบริษัทผู้นำในยุโรปที่ให้บริการเรือบรรทุกน้ำมัน เครื่องบินต่อสู้ เครื่องบินขนส่งและปฏิบัติภารกิจ รวมถึงบริษัท เกี่ยวกับอวกาศอันดับหนึ่งของยุโรปและธุรกิจเกี่ยวกับอวกาศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ แอร์ บัสยังให้บริการโซลูชั่นด้านอากาศยานปีกหมุนทางทหารและพลเรือนมีประสิทธิภาพมากที่สุดไปทั่วโลก