ไทยพาณิชย์เผย COVID-19 ส่งผลให้ประชาชน-ภาคธุรกิจออมเงินเพิ่ม ดันเงินฝากไตรมาสแรกโตสุดแกร่ง 7.5%

ศุกร์ ๐๘ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๐:๕๓
ธนาคารไทยพาณิชย์เผยเงินฝากของธนาคารไตรมาสแรกของปีนี้โตแข็งแกร่ง 7.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ระบุสถานการณ์ไวรัส COVID-19 และการมีช่องทางออนไลน์ (Online Platform) กระตุ้นให้ภาคประชาชนหันมาออมเงินในรูปแบบของเงินฝากเพิ่มขึ้น ด้านภาคธุรกิจเลือกฝากเงินตุนสภาพคล่อง หลังตลาดทุนและตลาดพันธบัตรมีความผันผวนสูง

นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2563 ของธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า ภาพรวมเงินฝากของธนาคารในไตรมาส 1 ปี 2563 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีจำนวนเงินรับฝากในไตรมาส 1 2563 อยู่ที่ 2.27 ล้านล้านบาท เติบโต 7.5% เมื่อเทียบจากไตรมาส 1 ปี 2562 และเติบโต 5.4% เมื่อเทียบจากสิ้นปี โดยส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินการตามกลยุทธ์ด้านเงินฝากของธนาคารที่ต้องการเพิ่มการเติบโตของเงินฝาก โดยเฉพาะเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากเดินสะพัด หรือ CASA ทั้งปริมาณเงินฝากและจำนวนลูกค้า รวมถึงการสร้างช่องทางให้สะดวกสบายมากขึ้นจากช่องทางออนไลน์ (Online Platform) อาทิ ช่องทาง SCB Easy และพันธมิตรต่างๆของธนาคาร เป็นต้น

“กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดามีการออมเงินมากขึ้นทั้งเงินฝากออมทรัพย์ธรรมดา และออมทรัพย์ในรูปแบบเปิดบัญชีผ่านช่องทาง SCB Easy และรูปแบบบัญชีแบบไม่มีสมุด ได้แก่ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์อีซี่ และบัญชีออมทรัพย์แบบไม่มีสมุด ที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าออมทรัพย์ธรรมดา ซึ่งธนาคารเชื่อว่าเงินฝากออมทรัพย์ในรูปแบบไม่มีสมุดบัญชีจะค่อยๆ เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญในอนาคตตามทิศทางของการเติบโตของดิจิทัล แบงกิ้งในประเทศ” นางอภิพันธ์ กล่าว

นอกจากนี้การเติบโตของเงินฝากในไตรมาส 1 ที่เติบโตเป็นพิเศษ เนื่องจากในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ลูกค้ามีความความเชื่อมั่นในความมั่นคงของธนาคารไทยพาณิชย์ ทั้ง สถานะทางการเงิน สภาพคล่อง เงินกองทุนที่เพียงพอ รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของธนาคาร ทำให้พบว่าลูกค้าทั้งกลุ่มบุคคลและกลุ่มธุรกิจได้มีการย้ายเงินฝากจากธนาคารขนาดกลางและเล็กมายังธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มขึ้นผ่านการเปิดบัญชี CASA กับทางธนาคารเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ลูกค้ามีการลดสัดส่วนการลงทุนทั้งตลาดทุนและตลาดพันธบัตรมายังเงินฝากเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะ CASA เนื่องจากความผันผวนที่สูงขึ้นมากทั้งตลาดทุนและตลาดพันธบัตร ขณะที่ลูกค้าธุรกิจมีการสะสมสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในรูปเงินฝาก และการเลื่อนการลงทุนต่างๆ แล้วเปลี่ยนการลงทุนมาอยู่ในรูปแบบเงินสด หรือเงินฝากธนาคารเพื่อรักษาสภาพคล่องของบริษัท ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1 ของปี 2563 ธนาคารมีสัดส่วนเงินฝาก CASA เพิ่มขึ้นเป็น 73% จากสิ้นปี 2562 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 67%

นางอภิพันธ์ กล่าวต่อว่า ธนาคารคาดว่าการเติบโตของเงินฝากจะเข้าสู่ภาวะสมดุลหากสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลาย อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ทางด้านการเติบโตเงินฝาก CASA และจำนวนลูกค้า ยังคงดำเนินการต่อไป รวมทั้งการรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน และเพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าออมเงินฝากออมทรัพย์โดยใช้ E-Passbook แทนการใช้สมุดเงินฝากโดยจะได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป

ทั้งนี้ ธนาคารขอเชิญชวนประชาชนหันมาออมเงินผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากในรูปแบบ digital ซึ่งนอกจากจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ปกติแล้ว การเปิดบัญชีในรูปแบบ digital จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนสามารถรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้อีกทาง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ