มูลนิธิครอบครัวข่าว และช่อง 3 ได้เริ่มจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นสำหรับโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด เพื่อเป็นการช่วยแพทย์ พยาบาล และบุคคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อจากภาระหน้าที่รักษาผู้ป่วย เพื่อให้พวกเขาได้มีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อให้ดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการปฏิบัติงาน อาทิ ชุดป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งมีตั้งแต่ ชุดPPE ซึ่งเป็นชุดปลอดภัยสูงสุดใช้เมื่อต้องปฏิบัติการรักษาผู้ป่วย ชุด Isolate Gown รวมถึงชุดป้องกันที่ใช้ในส่วนต่าง ๆ ของโรงพยาบาลเพื่อลดการสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง นอกจากนี้ยังจัดซื้อหน้ากาก N95 ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับบุคคลกรทางการแพทย์ รวมถึง Face Shields และตู้อบ UV เพื่อนำหน้ากากมาฆ่าเชื้อและสามารถนำไปใช้ซ้ำได้ นอกจากนี้ยังจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วย อาทิ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว รวมถึง แอลกอฮอล์เจล และแท่นเครื่องจ่ายแอลกอออล์เจลแบบใช้เท้าเหยียบ โดยคณะทำงานของมูลนิธิฯ ได้ทำการทยอยจัดส่ง เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว ให้กับ โรงพยาบาลกว่า 200 แห่ง ใน 60 จังหวัด ทั่วประเทศ และกำลังทยอยนำส่งต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นอกจากอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว ยังมีการจัดทำถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบความ ลำบากในการดำรงชีวิตเนื่องจากไม่สามารถประกอบอาชีพได้ในช่วงการล็อคดาวน์ ขาดรายได้ที่ใช้จุนเจือครอบครัว โดยคณะทำงานได้เริ่มดำเนินการส่งถุงยังชีพไปแล้วกว่า 2,000 ชุด ให้กับประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและยะลา และจะยังคงทำต่อไปอย่างต่อเนื่องอีก 6 เดือน
จากน้ำใจคนไทยที่ได้ร่วมสมทบทุนผ่านทาง มูลนิธิครอบครัวข่าว เข้ามาอย่างมากมาย ในครั้งนี้ นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักกิจการองค์กร บมจ. บีอีซี เวิลด์ในฐานะ กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิครอบครัวข่าว กล่าวว่า “มูลนิธิครอบครัวข่าวต้องขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ร่วมสมทบทุน สำหรับโครงการนี้ เพื่อนำไปเป็นทุนจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์มาสนับสนุนให้เหล่าแพทย์ พยาบาล และผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า ให้มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ และเพื่อปกป้องพวกเขาจากการติดเชื้อในระหว่างปฏิบัติงานอีกด้วยครับ นอกจากนี้ทางมูลนิธิต้องขอขอบคุณผู้จัดละครของช่อง 3 ทุกท่าน รวมถึงเหล่านักแสดงจิตอาสาของเราที่เป็นตัวจักรสำคัญในการดำเนินโครงการนี้ด้วยความห่วงใยเหล่าบุคคลกรทางการแพทย์ ตั้งแต่การจัดหา จัดซื้อ และจัดส่งอุปกรณ์ไปยังโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้แม้มูลนิธิฯ จะปิดการร่วมสมทบทุนเพราะเห็นว่าสถานการณ์มีแนวโน้มในทางดีขึ้น แต่พวกเรายังมีหน้าที่ที่จะเร่งซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ส่งไปยังโรงพยาบาล เพื่อจะได้ใช้อย่างทันท่วงที ตามเจตนาของผู้มีจิตศรัทธารวมถึงการเตรียมถุงยังชีพเพื่อจัดส่งให้กับชุมชนที่มีความต้องการให้เร็วที่สุดอีกด้วยครับ”
สำหรับคณะทำงานในการจัดซื้อและแพ็คอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นการระดมความร่วมมือของผู้จัดละครและนักแสดงที่ได้อาสามา ช่วยกันในครั้งนี้ คุณชุดาภา จันทรเขตต์ หนึ่งในคณะอนุกรรมการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขอเป็นตัวแทนทั้งผู้จัด นักแสดง และคณะทำงาน กล่าวว่า “เรารู้สึกตื้นตันใจมากค่ะ ซึ่งต้องขอย้ำเลยว่า มีแค่เฉพาะคนไทยเท่านั้นนะคะ ที่เมื่อประเทศชาติมีภัย คนไทยจะร่วมทุ่มเทช่วยเหลือไม่เคยทิ้งกันซักครั้งเดียว เราจะเห็นได้จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา ส่วนยอดบริจาคที่ผู้มีน้ำใจร่วมกันสมทบเข้ามาทางมูลนิธิครอบครัวข่าวในโครงการนี้ ก็ถือว่าเกินความคาดหมายเช่นกัน พวกเรารู้สึกดีใจมาก มันทำให้การวางแผนในการช่วยเหลือปกป้องหมอและบุคลากรทางการแพทย์ทำได้อย่างเต็มที่ สามารถจัดส่งได้ครบตามที่ระบุมาเลยค่ะ และทุกบาททุกสตางค์เราใช้อย่างคุ้มค่าที่สุดให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจ”
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มโครงการ คณะทำงานได้เร่งจัดซื้อจัดหาเพื่อนำส่งทันที ตั้งแต่ วันพุธที่ 8 เมษายน 2563 เป็นต้นมา และได้แบ่งจำนวนเงินที่ได้มาจากการร่วมสมทบทุนไปซื้อเครื่องเครื่องช่วยหายใจ KMITL Go Life Ventilators Fight Covid-19 ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) สร้างขึ้น ซึ่งเครื่องนี้มีประโยชน์อย่างมากในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน และยังป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ไม่ให้สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง และได้ทยอยจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปแล้ว 5 ครั้ง ซึ่ง ช่อง 3 ได้ระดมกำลังทั้งผู้บริหาร ผู้จัด นักแสดง ทีมงานของมูลนิธครอบครัวข่าว ช่วยกันแพ็คอุปกรณ์ทางการแพทย์ ครั้งที่ 1 ส่งให้กับ 50 โรงพยาบาล ใน 40 จังหวัด และได้ทยอยนำส่งต่อไปตามลำดับ ต่อมาครั้งที่ 2 ร่วมแพ็คอุกรณ์ทางการแพทย์ส่งมอบให้กับ 108 โรงพยาบาล ใน 60 จังหวัด ที่แสดงความจำนงค์ขอความช่วยเหลือเข้ามา ครั้งที่ 3 ร่วมแพ็คอุปกร์ทางการแพทย์ ตามที่ได้รับแจ้งขอเข้ามาอย่างเร่งด่วนให้กับ แพทย์ พยาบาล ร่วม 200 โรงพยาบาล ครั้งที่ 4 แพ็คด่วนเพื่อส่งให้กับ ด่านชายแดนใต้ 4 จังหวัด โดยมี ยะลา, สงขลา, นาราธิวาส และสตูล เพื่อช่วยในการป้องกันให้กับหน่วยคัดกรอง และ อีก 100 โรงพยาบาล ครั้งที่ 5 ได้แพ็คถุงยังชีพ ร่วม 1,000 ถุง โดยส่งไปให้กับ จังหวัดยะลา 500 ถุง และทั่วไปในแต่ละจังหวัดที่ต้องการอีก 500 ถุง และจะยังทยอยนำส่งทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมทั้งถุงยังชีพต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ในเวลานี้ถึงแม้ปิดรับเงินสมทบทุนไปแล้ว แต่คณะทำงานจะยังคงดำเนินการส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสิ่งของที่มีความจำเป็นต่อไปให้ครอบคลุมไปถึงในช่วงตลอดหน้าฝนเพื่อป้องกันและระวังการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่อาจเพิ่มขึ้นในฤดูฝนอีกต่อไป