นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อสม. 1.4 ล้านคน เป็นกำลังสำคัญของสังคมไทยที่แสดงบทบาททำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด และเป็นกลุ่มที่มีต้นทุนเครือข่ายมหาศาล คุณค่าของ อสม. คือการได้ทำงานมากกว่าต้องการผลตอบแทน
“วันนี้ กระทรวงฯ สร้างคุณค่าเพิ่มของจิตอาสาให้เป็นหน้าด่านของประเทศไทยในการเป็นผู้คัดกรองโรคไม่เฉพาะโรคโควิด 19 และยังดูแลสุขภาพคนในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง” นายสาธิต กล่าว
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าเพิ่มว่า อสม. เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่เสียสละไปดูแลคนไทยทุกบ้านและให้คำแนะนำอย่างถูกวิธีกรณีผู้กักตัวเอง ทำให้การควบคุมโรคในต่างจังหวัดทำได้ดี
“ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการสนับสนุนอาหาร อุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องร่วมมือกันต่อไป ไม่เกิดการระบาดระลอกที่ 2” นพ.สุขุม กล่าว
นายจำรัส คำรอด ประธานชมรม อสม. แห่งประเทศไทย กล่าวว่า อสม. ทำงานมากกว่า 40 ปี ไม่ได้หวังผลประโยชน์ใดๆ ทำด้วยใจจริง และต้องขอบคุณโรคโควิด 19 ที่ทำให้คนรู้จัก อสม. มากขึ้น
“ผมได้สอบถามความต้องการของสมาชิก อสม. ซึ่งได้รับคำตอบว่า พวกเขาต้องการทำงานไม่ต้องการเงิน เป็นการทำงานด้วยใจ และสิ่งที่จะทำคือ ทำให้คนไทยปลอดจากโควิด 19” นายจำรัส กล่าว
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งมอบอาหารคุณภาพดี อร่อย และปลอดภัย อย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการ “ซีพีเอฟ ส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัยโควิด 19” โดยให้ความสำคัญกับการส่งมอบอาหารให้กับ 1.ผู้กักตัวเองที่กลับจากประเทศเสี่ยง 20,000 คน 2.แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เกือบ 200 แห่งทั่วประเทศ และ 3.โครงการส่งอาหารจากใจให้ครอบครัวแพทย์และพยาบาล เพื่อแบ่งเบาภาระของแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐที่มีผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 20,000 ครอบครัว
“องค์การอนามัยโลก ให้การยอมรับ อสม.ของไทยว่าสามารถทำงานด้านสุขอนามัยพื้นฐานได้ดีในระดับโลก จึงขอใช้โอกาสนี้ส่งกำลังใจให้ผู้เสียสละซึ่งเป็น ฮีโร่ที่ลืมไม่ได้” นายประสิทธิ์กล่าว
ในวันนี้ ซีพีเอฟ ได้สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขเป็นโครงการที่ 4 ในการร่วมดูแล อสม. ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้าออกเคาะประตูบ้าน 12 ล้านครัวเรือน เพื่อค้นหาและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพื่อนำเข้าระบบการรักษาได้รวดเร็ว ตลอดจนให้ความรู้และย้ำความสำคัญของมาตรการเว้นระยะห่าง ซึ่งจะทำให้งานควบคุมและป้องกันโรคในระดับชุมชนมีประสิทธิภาพ อยู่ในวงจำกัดได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงขอมอบคูปอง “คูปองส่วนลดจากใจให้ อสม. #ฮีโร่ที่ลืมไม่ได้” จำนวน 1 ล้านใบ เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้ออาหารที่ร้านซีพี เฟรชมาร์ท เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และช่วยค่าครองชีพของอาสาสมัคร
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ จะส่งคูปองดังกล่าวผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อส่งต่อให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ และนำไปแจกจ่ายให้กับ อสม. ในพื้นที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ทั่วประเทศอย่างทั่วถึงและนำไปใช้สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว โดย อสม. สามารถนำคูปองที่ได้รับ พร้อมบัตรประชาชนและบัตรประจำตัว อสม. ไปลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิก ซีพี เซอร์ไพรส์ (CP Surprise) ในการรับสิทธิ์ได้ที่ร้านซีพีเฟรชมาร์ททั่วประเทศและสามารถใช้คูปองได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1788
“โครงการคูปองส่วนลดราคาพิเศษให้กับ อสม. เป็นการขยายการดูแลสังคมเพิ่มเติมของบริษัทฯ ช่วยค่าครองชีพและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในการควบคุมโรคโควิด 19 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั่วประเทศ” นายประสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังได้ดำเนินโครงการส่งอาหารจากใจ.. สู่ชุมชน โดยร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 เพื่อส่งอาหารพร้อมรับประทานให้ผู้มีรายได้น้อยในชุมชนในกรุงเทพมหานครจำนวน 8,499 ครัวเรือน และโครงการอาหารปลอดภัยจากใจ..สู่ชุมชน โดยร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งอาหารอุ่นร้อนพร้อมรับประทานให้กับผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ