หนึ่งในปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุดในการติดตามการติดเชื้อในประเทศไทยคือระบบรายงาน แม้ว่าการเอ็กซเรย์ทรวงอกจะเป็นหนึ่งในวิธีการตรวจที่มีการใช้มากที่สุดทั่วโลก แต่ปัจจุบันประเทศไทยยังคงประสบปัญหาขาดแคลนรังสีแพทย์ ทำให้โรงพยาบาลขนาดเล็กหลายแห่งต้องส่งภาพเอ็กซเรย์ไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่าเพื่อแปลผลภาพเอ็กซเรย์ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยในชนบทและพื้นที่ห่างไกลต้องรอผลการวินิจฉัยนานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะได้รับการรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้ การขาดแคลนรังสีแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ยังส่งผลต่อความแม่นยำและความละเอียดในการตรวจหาอาการที่เกี่ยวข้องและการวินิจฉัยผู้ป่วย
การนำแอพพลิเคชัน CRX Screening เข้ามาใช้ ทำให้โรงพยาบาลสามารถวินิจฉัยวัณโรคได้แบบเรียลไทม์และมีความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ประสบปัญหาขาดแคลนรังสีแพทย์และทรัพยากรอื่นๆ
“ในฐานะ Cloud Solution Provider ที่ครบวงจรที่สุดของไทย ไอเน็ตมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีอันเป็นนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ความสามารถในการทำงาน และประสิทธิภาพของธุรกิจต่างๆ ในประเทศของเรา” นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการของไอเน็ต กล่าว
“การนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ร่วมกันระหว่างไอเน็ตและไอบีเอ็ม เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีร่วมกับรังสีแพทย์ แพทย์สาขาต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านจากโรงพยาบาลทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงการทลายข้อจำกัดเพื่อก้าวเข้าสู่มิติใหม่ของการดูแลสุขภาพที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวผลักดันให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในที่สุด”
หลังจากที่มีการฝึกสอนระบบเอไอโดยรังสีแพทย์และแพทย์สาขาต่างๆ ด้วยภาพกว่า 40,000 ภาพจากโรงพยาบาล และโมเดลภาพถ่ายรังสีทรวงอก พบว่าแอพพลิเคชัน CXR Screening ที่พัฒนาโดยไอเน็ต สามารถตรวจพบวัณโรคด้วยอัตราความแม่นยำสูงถึง 96% การใช้ IBM Visual Insights ซึ่งเป็นโซลูชันด้านการรู้จำภาพ (visual recognition) ที่ทำงานบนระบบ IBM Power Systems ทำให้ไอเน็ตสามารถสร้างโมเดลภาพ จากนั้นจึงจำแนกประเภทวัตถุที่ตรวจพบในภาพเอ็กซเรย์ทรวงอก โดยที่ไม่ต้องมีการเขียนโค้ดหรืออาศัยความเชี่ยวชาญด้าน deep learning แต่อย่างใด
ความปลอดภัยของ IBM Systems รวมถึงการผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 27017 และ ISO 27799 ของระบบ Storage และคลาวด์สำหรับงานด้านเฮลธ์แคร์โดยเฉพาะ พร้อมการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ในดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ ยังช่วยให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยหรือผู้สงสัยว่าจะป่วยจะได้รับการปกป้อง ควบคุมความปลอดภัย และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญคนไทยที่คอยให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
“เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับไอเน็ต เพื่อนำเทคโนโลยี AI vision หรือการใช้เอไอในการวิเคราะห์ภาพและไฟล์วิดีโอที่ก้าวล้ำ ร่วมกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงและแพลตฟอร์มระดับโลกที่มีความปลอดภัย เข้าสนับสนุนรังสีแพทย์และแพทย์สาขาต่างๆ และช่วยให้ผู้ป่วยวัณโรคในโรงพยาบาลทั่วประเทศไทยได้รับการตรวจวินิจฉัยที่มีคุณภาพ พร้อมรับการรักษาอย่างทันท่วงที”
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว “เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าวงการเฮลธ์แคร์ของไทยกำลังเดินหน้าและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับประเทศและระดับสากล”
วันนี้รังสีแพทย์สามารถอัพโหลดภาพเอ็กซเรย์ทรวงอกเข้ามาที่แอพพลิเคชัน CXR Screening ซึ่งจะแปลเป็นผลลัพธ์ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที พร้อมด้วยเปอร์เซ็นต์แสดงระดับความมั่นใจ โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้แพทย์สามารถโฟกัสไปที่กลุ่มผู้มีโอกาสเป็นวัณโรคมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลรักษาด้วยแนวทางที่มีประสิทธิภาพอย่างทันท่วงที ปัจจุบันมีการขยายการใช้แอพพลิเคชัน CXR Screening ที่ใช้เอไอนี้ ในการตรวจหาอาการอื่นๆ จากภาพเอ็กซเรย์ทรวงอกอีก 14 อาการ เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด และภาวะปอดรั่ว โดยคาดว่าจะมีผู้ป่วยหลายพันคนในโรงพยาบาล 300 แห่งทั่วประเทศที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อฝึกอบรมนักศึกษาแพทย์เกี่ยวกับการวินิจฉัยและรักษาโรคทรวงอกอีกด้วย