แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญตลาดแรงงานเชิงนวัตกรรมระดับโลก เปิดเผยว่า จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลในการเตรียมความพร้อมขององค์กรธุรกิจและภาคแรงงาน ในการกลับมาทำงานอย่างปลอดภัยท่ามกลางความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) โดยมีการจำกัดความหมายรูปแบบใหม่นี้ว่า เป็นการใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และจะเป็นเรื่องปกตินับต่อจากนี้ไป ภายหลังทั่วโลกเกิดวิกฤตโรคระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาและส่งผลต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและตลาดแรงงานทั่วโลกอยู่ในภาวะล็อคดาวน์ยาวนานในหลายอุตสาหกรรมและหลายประเทศทั่วโลก นับเป็นความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับทุกคนและเศรษฐกิจทั่วโลก โดยรัฐบาลแต่ละประเทศได้กำหนดมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อช่วยเหลือธุรกิจและแรงงานทั่วโลก ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มีความพยายามต่อสู้อย่างหนักเพื่อเอาตัวรอดในภาวะวิกฤตนี้ มีผู้คนจำนวนมากกำลังจะตกงานและเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเงิน ปัจจุบัน ยังไม่มีวี่แววว่าโรคระบาดครั้งนี้จะจบลงในเร็ววันนี้และมีการคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องอย่างนานไปอีกหลายปี แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในวันนี้คือ โลกของการทำงานจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อจำกัดภาวะการถดถอยทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อความสามารถในการหาเลี้ยงชีพของคน ตลาดแรงงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดต้องเร่งปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงใหม่ได้โดยเร็ว ความปกติในรูปแบบใหม่ที่มีการเว้นระยะห่างทางกายภาพ (มีความหมายเหมือนกับการเว้นระยะห่างทางสังคมตามวัตถุประสงค์ของรายงานฉบับนี้) และมาตรการที่เข้มงวดอื่นๆ จะกลายเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการในที่ทำงานทั้งหมดสำหรับระยะเวลาที่กำลังจะมาถึงนี้ พร้อมยังได้รวมการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานซึ่งครอบคลุมการทำงานทางไกลด้วย ดังนั้น สิ่งจำเป็นที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือ การเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อให้คนกลับมาทำงานอย่างรวดเร็วและปลอดภัยเมื่อถึงเวลาเหมาะสม
ในจังหวะเวลาที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจ การประมาณการสำหรับเศรษฐกิจของเยอรมนีบ่งชี้ว่าถ้ามีการล็อคดาวน์เพิ่มหนึ่งสัปดาห์จีดีพีจะลดราว 0.5% ต่อปี ซึ่งหมายถึงจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นและคนงานจะขาดรายได้ จำนวนมาก จังหวะเวลาจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและภาคส่วน ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการเรียนรู้จากลำดับขั้นของโรคระบาดทั่วโลก ในส่วนการจัดระเบียบและทำให้คนกลับมาทำงานอย่างปลอดภัยหลังจากโรคระบาดหยุดชะงักลงเป็นความท้าทายที่สำคัญยิ่ง การหลีกเลี่ยงการติดเชื้อระลอกสองเป็นข้อพิจารณาสำคัญประการหนึ่ง ความร่วมมือและการประสานงานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ ตั้งแต่นายจ้างและรัฐบาลไปจนถึงสหภาพแรงงาน สถาบันและรวมถึงลูกจ้างเองด้วย เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความปกติในรูปแบบใหม่ในการทำงาน เพื่อความแน่นอนและปลอดภัย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องร่วมแบ่งปันวิธีการปฏิบัติที่ได้ผลระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมต่าง ๆ และต้องสร้างช่องทางใหม่ๆ เพื่อการดำเนินมาตรการที่มีประสิทธิภาพเป็นไปอย่างรวดเร็ว หากไม่มีกระบวนการและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนแล้ว ผู้คนแรงงานอาจจะกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองเมื่อต้องกลับมาทำงาน รวมทั้งภาคธุรกิจ ร้านค้าอาจจะเกิดความลังเลที่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งด้วย
ด้วยความตระหนักในเรื่องเร่งด่วนนี้ อุตสาหกรรมที่ให้บริการเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์ 3 องค์กรชั้นนำระดับโลกประกอบด้วย บริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป, อเด็คโก้ กรุ๊ป และบริษัท รันด์สตัด (Randstad NV) ร่วมลงนามประกาศความร่วมมือสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับการกำหนดบรรทัดฐานใหม่ในสถานที่ทำงานหลังเหตุการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 นับเป็นการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญจาก 3 องค์กรชั้นนำด้านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญในตลาดแรงงาน ชั้นนำระดับโลก เพื่อช่วยให้บริษัทและพนักงานสามารถกลับมาปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในฐานะนายจ้างภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดแรงงานระดับโลก 3 องค์กรมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะร่วมกันสนับสนุนกระบวนการในการเตรียมความพร้อมสำหรับความปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) และเร่งให้แรงงานกับมาทำงานอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ กลุ่มนายจ้าง สหภาพการค้า และองค์กรเอกชนทั้งหมดจะได้รับคำเชิญให้เข้ามาร่วมมือกัน พร้อมให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนการดำเนินการสร้างมาตรฐานครั้งนี้
ภาพรวมผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ได้ส่งผลและสร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศ ข้อมูลระบุว่า ชาวอเมริกัน 3.3 ล้านคน ยื่นขอรับเงินชดเชยการว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่สามของเดือน มีนาคม และมีการยื่นขอเพิ่มอีก 6.9 ล้านคนในสัปดาห์ถัดมา ตามด้วย 6.6 ล้านคนของต้นเดือนเมษายน (4 เม.ย) ที่ผ่านมาสถิติการยื่นขอเงินชดเชยก่อนเกิดวิกฤตครั้งนี้ปี 2525 มีการยื่นชดเชยต่อสัปดาห์สูงสุดอยู่ที่ 6.9 แสนราย นับเป็นตัวเลขสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ จากการใช้มาตรการล็อคดาวน์บางส่วนหรือเต็มรูปแบบในหลายประเทศกำลังส่งผลกระทบกับแรงงานเกือบ 2.7 พันล้านคน หรือ 81% ของแรงงานทั่วโลก และองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) มีการคาดการณ์ว่าในไตรมาส 2 ปีนี้จะมีคนตกงานทั่วโลก 195 ล้าคน เฉพาะในยุโรปมีคนตกงาน 12 ล้านคน
ภาพรวมผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ได้ส่งผลและสร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศ ข้อมูลระบุว่า ชาวอเมริกัน 3.3 ล้านคน ยื่นขอรับเงินชดเชยการว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่สามของเดือนมีนาคม และมีการยื่นขอเพิ่มอีก 6.9 ล้านคนในสัปดาห์ถัดมา ตามด้วย 6.6 ล้านคนของต้นเดือนเมษายน (4 เม.ย) ที่ผ่านมาสถิติการยื่นขอเงินชดเชยก่อนเกิดวิกฤตครั้งนี้ปี 2525 มีการยื่นชดเชยต่อสัปดาห์สูงสุดอยู่ที่ 6.9 แสนราย นับเป็นตัวเลขสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ จากการใช้มาตรการล็อคดาวน์บางส่วนหรือเต็มรูปแบบในหลายประเทศกำลังส่งผลกระทบกับแรงงานเกือบ 2.7 พันล้านคน หรือ 81% ของแรงงานทั่วโลก และองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) มีการคาดการณ์ว่าในไตรมาส 2 ปีนี้จะมีคนตกงานทั่วโลก 195 ล้าคน เฉพาะในยุโรปมีคนตกงาน 12 ล้านคน
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป หนึ่งในองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและตลาดแรงงานระดับโลก ขอมีบทบาทสำคัญด้านทรัพยากรมนุษย์ในการร่วมจัดระเบียบการกลับมาทำงานอย่างปลอดภัย โดยยึดแนวทางการปฏิบัติเน้นด้านสุขภาพและความปลอดภัยจะต้องได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการเว้นระยะห่างทางกายภาพ” ชั่วคราว นานาประเทศ ภาคส่วนต่างๆ และภาคธุรกิจควรต่อยอดวิธีปฏิบัติที่ดีที่มีอยู่แล้วแบ่งปันไปทั่วโลก อุตสาหกรรมบริการด้านทรัพยากรมนุษย์พร้อมที่จะช่วยเหลือในการจัดการและทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมบริการด้านทรัพยากรมนุษย์สามารถช่วยได้อย่างไร ในส่วนมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมบริการด้านทรัพยากรมนุษย์มีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่ในอุตสาหกรรมบริการด้านทรัพยากรมนุษย์บทบาทสำคัญ โดยจะต้องสามารถทำงานเชิงรุกทั่วทั้งประเทศและทุกภาคส่วน ทำงานให้ทั้งกิจการขนาดใหญ่และวิสาหกิจขนาดกลางและเล็ก ดังนั้น จึงสามารถสนับสนุนวิธีปฏิบัติที่ดีของประเทศแรกๆ ที่เปลี่ยนแนวทางใหม่ และภาคส่วนที่ยังเปิดอยู่ ส่งเสริมความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการตลาดและแรงงานในภาคส่วนของบริษัท พร้อมทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เพราะจะเข้าใจปัญหาและความท้าทายที่แต่ละฝ่ายต้องเผชิญ โดยทำเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย มีเครือข่ายขนาดใหญ่โยงทั่วโลกซึ่งครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว ในการช่วยเหลือ ทั้งนี้ ยังมีประสบการณ์ในการจัดการและดำเนินกิจกรรมด้านสุขภาพและความปลอดภัย โดยทำงานใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยท้องถิ่น สุดท้าย เป็นที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ในการจัดการแรงงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งมีความสำคัญในการดำเนินการปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการเว้นระยะห่างทางกายภาพ
พร้อมกันนี้ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญในตลาดแรงงานขอนำเสนอคำแนะนำให้กับองค์กรต่างๆ เพื่อสนับสนุนการกลับไปทำงานอย่างปลอดภัย ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับนายจ้างและลูกจ้าง ผู้ให้บริการด้านทรัพยากรมนุษย์ได้บูรณาการการทำงานในสถาการณ์การแพร่ระบาดโวรัสโคโรน่า (COVID-19) ให้เข้ากับแนวทางการปฏิบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัย
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ในฐานะส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การดำเนินงานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของรัฐบาล อาทิ OSHA และ NIOSH ในสหรัฐอเมริกา พัฒนาแนวทางการปฏิบัติเดียวกันที่มีรากฐานมาจากระบบบริหารความปลอดภัยสามารถนำมาดัดแปลงเพื่อการบูรณาการด้านอื่นๆ ที่มีอิทธิพลอย่างมาก เช่น การป้องกันโควิด-19 การฟื้นฟูทางยุทธศาสตร์ ในการกำหนดระดับของความเสี่ยงและหาวิธีการที่ถูกต้องในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง สามารถนำลำดับชั้นของการควบคุมอันตราย(Hierarchy of Controls) ฉบับดัดแปลงของสถาบันชีวอนามัยและคามปลอดภัยแห่งชาติของสหรัฐฯ (NIOSH) มาใช้ได้
จากพีรามิดดังกล่าวยังได้เรียงลำดับผลกระทบกับการควบคุมความเสี่ยง เปรียบเทียบให้เห็นว่าหากไม่มีมาตรการรัดกุมตั้งแต่การป้องกันตั้งแต่จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE การควบคุมทางการบริหารโดยเปลี่ยนวิธีการทำงานของคน มีการควบคุมทางวิศวกรรมเปลี่ยนวิธีการทำงานจากคนเป็นเครื่องจักรลดความเสี่ยง การแทนที่เป็นลักษณะผลกระทบการทำงานปัจจุบัน และการกำจัด นำอันตรายออกทางกายภาพ ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจสูง แต่หากมีมาตรการรัดกุมเตรียมความพร้อมทุกด้านเชื่อมั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับต่ำ
ส่วนรูปแบบการบริหารจัดการตามพีรามิดช่วยให้นายจ้างเข้าใจในการกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้งให้มีความปลอดภัยและสมดุล พร้อมๆ ไปกับการบรรเทาความท้าทายจากโควิด-19 ข้อเสนอแนะนี้จะช่วยให้นายจ้างสามารถสร้างพื้นที่การทำงานให้ปลอดภัยต่อสุขภาพแรงงาน (ลูกจ้าง) ดังนั้น จะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตครั้งนี้ รวมทั้งยังช่วยแรงงานจำนวนมากสามารถมีงานทำในการเลี้ยงชีพได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในแต่ละองค์กรจะมีนโยบายของตัวเองที่สามารถปรับและป้องกัน เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อโดยมีกรอบปฏิบัติเชิงกายภาพไม่ให้เกิดผลกระทบซ้ำและลดการแพร่ระบาดของโควิด- 19
ทั้งนี้ การเกิดขึ้นของไวรัสโคโรน่าเป็นการหยุดชะงัก (Disruption) ซึ่งได้ทำลายล้างสิ่งที่เคยคิดไว้เดิม เปลี่ยนสู่ “ความปกติในรูปแบบใหม่” (New Normal) ขั้นตอนต่อไป (Next Step) อุตสาหกรรมด้านการบริการทรัพยากรมนุษย์กำลังเรียกร้องและเชิญชวนให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้แสดงบทบาทของตน โดยเน้น 5 กลุ่มหลักประกอบด้วยด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ด้านยานยนต์ การผลิตวิทยาศาสตร์และสิ่งมีชีวิต การก่อสร้างและอาหาร ใน 10 ประเทศดังนี้ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ สเปน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศนอร์ดิก ได้แก่ นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และเดนมาร์ก โดยกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มประเทศดังกล่าวจะดำเนินการประสานงานกับผู้มีส่วนได้เสียในประเทศต่างๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ เพื่อร่วมผลักดันให้เกิดมาตรการป้องกันระดับโลก นับเป็นการผนึกความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการรับมือโควิด-19 และฟื้นเศรษฐกิจให้กลับคืนมา แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ขอร่วมเป็นหนึ่งในองค์กรในการขับเคลื่อนมาตรการในครั้งนี้อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม โดยหวังว่าทุกองค์กรจะผ่านพ้นวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดไวรัสในครั้งนี้ได้โดยเร็วจากความร่วมมืออย่างเข้มแข็ง