นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” และทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2563 (สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2563) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยว่า ยังเป็นบวกทั้งในด้านรายได้และผลกำไรสุทธิ โดยในไตรมาส 1/63 มีรายได้รวม 448 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.87 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรในส่วนของที่เป็นบริษัทใหญ่ แม้จะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทำให้จำนวนของยอดผู้เข้าชมโครงการลดน้อยลง
โดยรายได้ในไตรมาส 1/63 มาจากโครงการ เดอะโพลิแทน รีฟ เฟส 1 มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวสูงย่านสนามบินน้ำ ภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทยอยโอนรับรู้รายได้ในสัดส่วนกว่า 50 % และมาจากโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” จำนวน 3 โครงการที่ทยอยเปิดขายตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 รวมทั้งยังมีการรับรู้รายได้จากการขายโครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม อเวนิวและมายโฮมซิลเวอร์เลค ฯลฯ เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดผู้เข้าชมโครงการ (Walk in) ลดน้อยลง บริษัทฯจึงได้มีการปรับวิธีการขายด้วยการผ่านช่องทางออนไลน์ และการทำ Re-Marketing เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจให้กับลูกค้า ส่วนในแง่ของการขายเราก็มีการจัดเป็น Conference Call ลูกค้าคุยกับเซลล์ เพื่อดูวิวทิวทัศน์หรือดูบ้านพัก ผ่าน Video call เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจของลูกค้า และยังมีภาพวิดีโอการขายแบบ 360 องศาให้ลูกค้าสามารถเก็บไว้ดูได้และเมื่อมีลูกค้าที่สนใจก็สามารถจองและชำระเงินผ่าน E-payment ได้เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐในเรื่อง Social D
ในส่วนไตรมาส 2/63 บริษัทเตรียมจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว “ซิลเวอร์เลค พาร์ค” เฟส 2 บนถนนสุวินทวงศ์-ฉลองกรุง มูลค่าโครงการ 400 กว่าล้านบาท ราคาขาย 5 - 9 ล้านบาท ที่มีเพียง 67 หลังเท่านั้น ขณะเดียวกันอยู่ในการพิจารณาเปิดตัวโครงการแนวราบ “ ทาวน์เฮ้าส์ “เอเวอร์ซิตี้ สุขสวัสดิ์ – พุทธบูชา 30 เฟส 2 เพิ่มเติมด้วย
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือปีนี้ของกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าน่าจะเติบโตได้เนื่องจากมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นมีนาคมปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท โครงการในมือ และโครงการใหม่ ๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพื่อเปิดขายจะมีการทยอยโอนให้ลูกค้า และยังมีสินค้ารอขายอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท
“คาดหวังว่าภาพรวมตลาดอสังหาหลังผ่านวิกฤติไวรัสโควิด-19 มีโอกาสเกิดภาวะการปรับสู่จุดสมดุลมากขึ้น ทยอยฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท และตลาดบ้านเดี่ยว ยังเป็นตลาดของผู้ที่มีกำลังซื้ออยู่ และเป็น Real Demand ส่วนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ก็น่าเริ่มกลับมาแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปมากกว่า เนื่องจากยังมีปัจจัยลบของเศรษฐกิจและการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ดังนั้นผู้ประกอบพยายามระบายสต็อกที่มีอยู่ และบริษัทฯให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการใหม่อย่างรอบคอบที่สุด
ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (11 พฤษภาคม 2563) อนุมัติให้บริษัทย่อยของบริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยอนุมัติบริษัท บางกอก ริว่า ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (“BANGKOK RIVA”) เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 500,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 500,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ภายหลังการเพิ่มทุนจำนวน 1,000,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 50,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจการอสังหาริมทรัพย์ และอนุมัติให้บริษัท บริษัท เอเวอร์แลนด์ จากัด (มหาชน) (“EVER”) เข้าเพิ่มทุนในบริษัท บางกอก ริว่า ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (“BANGKOKRIVA”)จำนวน 50,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท มูลค่ารวม 500,000,000 บาท