นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG ดำเนินธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) ปัจจุบันมีบริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ จำกัด เป็นบริษัทแกน ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายและซ่อมบำรุงรถยนต์ยี่ห้อ Honda เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2563 (ณ สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 )บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิเท่ากับ 15.95 ล้านบาท
สาเหตุที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดซ่อมของศูนย์บริการเติบโตได้ดีจากการเปิดสาขาครบ 10 แห่งและมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยอดขายรถยนต์ช่วง 2 เดือนแรกที่ช่วยสนับสนุน จากการที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (“Honda”) เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชั่น 5 รถในโครงการอีโค คาร์ เฟส 2 รุ่นแรกของฮอนด้า ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯเป็นดีลเลอร์ จึงได้รับประโยชน์ในครั้งนี้
"ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ทั้งรายได้และความสามารถในการทำกำไรดีกว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 และถือว่าบริษัทฯ ยังสามารถรักษาการเติบโตได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าผลงานช่วงครึ่งแรกของปีนี้อาจจะชะลอตัวลงหากเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าขยายศูนย์บริการสาขาภูเก็ตที่ 3 เพื่อช่วยสนับสนุนยอดขายและยอดซ่อมบริการให้เติบโตขึ้น"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า เป้าหมายช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตให้มีความแข็งแกร่ง และสามารถฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในทุกสถานการณ์ โดยบริษัทฯได้เริ่มรุกขยายไป ยังธุรกิจ FAST FIT ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ และให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ ภายในชื่อบริษัท ออโตคลิก บาย เอซีจี จำกัด (Autoclik By ACG Co.,Ltd.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมดำเนินการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เบื้องต้นบริษัทฯ มีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 30-40 ล้านบาท และจะนำร่องขยายสาขา 5 แห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานสามารถถึงจุดคุ้มทุนและสร้างผลกำไรในอนาคตอันใกล้นี้ รวมทั้ง จะดำเนินการเร่งพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้กับการให้บริการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการกับลูกค้ามากขึ้น สร้างในความสะดวกรวดเร็วเมื่อเข้ามาใช้บริการ และจะทำให้พร้อมที่จะกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะขอย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยขณะนี้มีคุณสมบัติเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ลดข้อจำกัดในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงเป็นการช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับบริษัทฯ มากขึ้น