นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้กว่า 4,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 21% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 106.5% ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้เติบโตขึ้นมาก มาจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศที่ขยายตัว โดยเติบโตขึ้นถึง 30% ช่วยชดเชยรายได้ในประเทศที่ลดลง จากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่หดตัว โดยปัจจุบันคาราบาวแดง ยังเป็นอันดับ 2 ของตลาด มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 21.4%
โดยรายได้เครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 2,156 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะตลาดกัมพูชาและเมียนมาร์ซึ่งเติบโตอย่างมาก คิดเป็นรายได้ 1,969 ล้านบาท, ประเทศจีน 66 ล้านบาท ที่เหลือหลักๆ มาจากเยเมนและอัฟกานิสถาน ขณะที่รายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายอยู่ที่ 475 ล้านบาท เติบโตขึ้น 63.5% ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการเติบโตที่ต่อเนื่องของตลาดต่างประเทศตั้งแต่ปี 2562 บริษัทได้ลงทุนขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยติดตั้งเครื่องจักรสายบรรจุขวดและกระป๋องใหม่ ที่โรงบรรจุเครื่องดื่มบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มกำลังผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวดเป็น 4.20 ล้านขวดต่อวัน คิดเป็น 40% และเพิ่มกำลังผลิตเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องเป็น 5.90 ล้านกระป๋องต่อวัน คิดเป็น 30%
นายเสถียร กล่าวว่า นอกจากการรุกตลาดประเทศเพิ่มขึ้น ในประเทศบริษัทมีแผนรุกตลาดเครื่องดื่ม “ฟังก์ชันนัลดริงก์” เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ และเป็นเทรนด์ที่นิยมของคนรุ่นใหม่ ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้เปิดตัวเครื่องดื่มวิตามินซี ภายใต้แบรนด์ “วู้ดดี้ ซี+ ล็อค” ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท กับพิธีกรชื่อดัง นายวุฒิธร มิลินทจินดา โดยใช้งบการตลาดสำหรับแบรนด์ วู้ดดี้ ซี+ ล็อค มูล่าค่า 200 ล้านบาท เพื่อผลักดันส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้น ปัจจุบันเครื่องดื่มวิตามินซี วู้ดดี้ ซี+ ล็อค วางจำหน่ายที่ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ อาทิ เซเว่น อีเลฟเว่น, ซีเจ เอ็กซ์เพรส และร้านค้าทั่วไป พร้อมกันทั่วประเทศ ในราคาขวดละ 15 บาท โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้เกินเป้าที่ 100 ล้านขวด
ทั้งนี้ การขยายไลน์สู่ตลาดฟังก์ชันนัล ดริ้งก์ นอกจากรองรับกระแสสุขภาพแล้ว ยังเป็นการเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์จากฐานการผลิตของบริษัทที่มีอยู่ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงต่อยอดผลสำเร็จของเครือข่ายกระจายสินค้าของคาราบาวกรุ๊ปซึ่งมีศักยภาพสูงสามารถเข้าถึงร้านค้าปลีกได้กว่า 180,000 แห่ง ทั่วประเทศ
โดยในเดือนมิถุนายนนี้ มีแผนเปิดตัวรสชาติใหม่ คือ วู้ดดี้ ซี+ล็อค รสส้ม และปลายปีเตรียมเปิดตัวสินค้าในกลุ่มฟังก์ชันนัล ดริงก์ ตัวอื่นๆ เพิ่มเติม โดยตั้งเป้าว่าส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงก์ จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีเป้าหมายขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดนี้ในอนาคต