นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพของบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุข ตลอดจนประชาชนทั่วไป ที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการรับเชื้อโควิด-19 (COVID-19) ระหว่างบุคคลและข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น กสอ. จึงเดินหน้าร่วมมือกับสถาบันพลาสติกออกแบบและผลิต “หน้ากากป้องกันใบหน้า” (Face Shield) อุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสและละอองฝอย ใน 3 รูปแบบ จำนวน 3,500 ชิ้น และเตรียมส่งมอบผ่านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ดังนี้
เฟซชิลด์เพื่อแพทย์ไทย (Medical Face Shield) หน้ากากที่ได้รับการออกแบบพิเศษ ที่มาพร้อมกลไกการปรับขึ้น - ลงของแผ่นใส สามารถปรับระยะการสวมใส่ให้พอดี กับศีรษะ และสวมใส่ได้อย่างรวดเร็วด้วยมือข้างเดียว เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ โดยผลิตจำนวน 1,500 ชิ้นเฟซชิลด์เพื่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) (Volunteer Face Shield) หน้ากากที่สามารถสวมใส่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มาพร้อมฟังก์ชันเปิดแผ่นใสขึ้นลง และเปลี่ยนแผ่นใส่ได้ง่าย ด้วยวิธี 'กด-ดึง’ เพื่อรูดสายให้กระชับกับศีรษะ โดยผลิต จำนวนทั้งสิ้น 1,500 ชิ้นเฟซชิลด์สำหรับประชาชนทั่วไป (People Face Shield) หน้ากากที่ได้รับการออกแบบพิเศษ โดยประกอบเข้ากับแว่นตา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการพกพา ถอดประกอบ และสวมใส่ของประชาชน ที่รวดเร็วและคล่องตัวยิ่งขึ้น โดยผลิตจำนวน 500 ชิ้น
โดย กสอ. ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายอย่างสถาบันพลาสติกและสถาบันไทย-เยอรมัน ในการพัฒนาต้นแบบแม่พิมพ์ ด้วยกระบวนการฉีดขึ้นรูปพลาสติก ภายใต้โครงการ “ยกระดับอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0” การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการผลิตแม่พิมพ์ต้นแบบ รับสถานการณ์ โควิด-19 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทยให้เข้มแข็ง ทั้งด้านการผลิตแม่พิมพ์ การบริหารจัดการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยที่ล่าสุด เตรียมจัดทำแม่พิมพ์ต้นแบบ ดังนี้ 'กล่องวางหน้ากากอนามัย N95’ ด้วยกระบวนการฉีดขึ้นรูปพลาสติก ป้องกันการสัมผัสหน้ากากโดยตรง และ 'ด้ามส่องหลอดลม’ อุปกรณ์ป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ ที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้หลายครั้ง ทั้งนี้ สำหรับกระบวนการฉีดขึ้นรูปพลาสติกในการทำหน้ากากป้องกันใบหน้า” (Face Shield) จะช่วยเพิ่มศักยภาพผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำลง เนื่องจากกระบวนการดังกล่าว สามารถผลิตได้สูงถึง 1,200 ชิ้นต่อวัน โดยมีต้นทุนเพียง 100 บาทต่อชิ้น ขณะที่ ระบบ 3D Printing จะมีกำลังการผลิต ที่ 30 ชิ้นต่อวัน และมีต้นทุนสูงถึง 250 บาทต่อชิ้น
นอกจากนี้ กสอ. ยังมีแนวทางการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด - 19 ดังกล่าว ในการเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ช่วยให้ผู้ประกอบการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างถูกทางเพื่อปรับตัวสู่นิวนอร์มอล (New Normal) หรือความปกติแบบใหม่ การสนับสนุนการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนและประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) เพิ่มมากขึ้น ทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง และสร้างความยั่งยืนในอนาคต นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4417 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dipindustry และ www.dip.go.th