นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 10.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจากการเติบโตในไตรมาส 1/63 ที่ 40.8% และบริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดี ในขณะที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจ โดยรับคำสั่งซื้อและส่งออกสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในไตรมาสที่ 2 เป็นฤดูกาลที่มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอทำให้สามารถผลิตวัตถุดิบได้มากขึ้น และมีต้นทุนที่ลดลง รวมถึงแนวโน้มของค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท
ช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากได้ลูกค้ารายใหม่เข้ามาซึ่งเป็นลูกค้าที่มีเสถียรภาพ และมีสัญญาการซื้อขายที่เป็นระยะยาว เข้ามาเพิ่มเติมจากจำนวนลูกค้าเดิมที่มีอยู่ และบริษัทฯ ยังได้ขยายตลาดไปยังยุโรปและตะวันออกกลางจึงเป็นตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีความใกล้ชิดกับลูกค้าในต่างประเทศ โดยการใช้ระบบออนไลน์พูดคุยกับลูกค้าในทุกวัน ซึ่งส่งผลดีในเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลงอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมปรับเป้าหมายรายได้ในปี 2563 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ 15- 20% ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทจะมีการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคใหม่ หรือ New Normal