วงเงินกู้ดังกล่าวจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 616.1 ล้านบาท เป็นการสนับสนุนร่วมกันระหว่าง ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) ในวงเงินประมาณ 235.6 ล้านบาท กองทุนเพื่อเทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology Fund) ซึ่งอยู่ภายใต้กองทุนเพื่อการลงทุนด้านภูมิอากาศ (Climate Investment Funds) ในวงเงินประมาณ 144.9 ล้านบาท และธนาคารกสิกรไทย ในวงเงินประมาณ 235.6 ล้านบาท ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนโครงการที่ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่โครงการพลังงานลม “ลมลิกอร์” บริษัทในเครือของบีซีพีจี ได้ลงนามสัญญาอนุมัติเงินกู้กับ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) และ ธนาคารกสิกรไทย ในครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มีเม็ดเงินเพื่อไปลงทุน และสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยโครงการลมลิกอร์จะมีส่วนช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียนให้แก่ระบบไฟฟ้าภายในประเทศอย่างน้อย 14,870 เมกะวัตต์ ต่อปี เทียบเท่ากับการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ 6,263 ตัน ตลอดทั้งปี 2563
“นวัตกรรมระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) นอกจากจะช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) แล้ว ยังสามารถใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของการบริหารจัดการระบบการสำรองไฟฟ้าของประเทศไทยได้อีกด้วย” นายบัณฑิตกล่าวทิ้งท้าย
บีซีพีจี ในฐานะบริษัทฯ ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย มีนโยบายในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน เอี้อประโยชน์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของพลังงานมากขึ้น ภายใต้แนวคิด Democratization of Energy