นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) TMILL ผู้ผลิตแป้งสาลีรายใหญ่ของประเทศไทยและมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 43.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75.8%เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2562 ที่มีผลกำไรสุทธิ 24.69 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีการใช้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 76.47% เพิ่มขึ้น 1.06% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเป็นการสะท้อนว่าไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ ( COVID-19 ) แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในส่วนของต้นทุนของข้าวสาลีที่เป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทฯ ปรับตัวลดลงในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปัจจัยด้านราคาข้าวที่มีการทำสัญญาซื้อตั้งแต่กลางปี จึงส่งผลให้อัตราต้นทุนขายในไตรมาส 1/2563 ลดลง 5% และอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2563 สูงขึ้น 5%
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง จึงส่งผลให้ค่าขนส่งสินค้าลดลงตามราคาน้ำมัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทฯ ลดลงด้วย อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายในไตรมาส 1/2563 ลดลง 2.5% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยที่รายได้จากการจำหน่ายแป้งสาลีลดลง 1.1% และรายได้จากการจำหน่ายรำข้าวสาลีลดลง 1.4% ทั้งนี้ถึงแม้ปริมาณการจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 2.3% และ 10.7% แต่ราคาจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเฉลี่ยลดลง 3.5% และ18.5% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาตลาดมีการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น ประกอบกับลูกค้ามีต่อรองราคาโดยอ้างอิงราคาตลาดข้าวสาลีโลกที่ลดลง รวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปีที่ผ่านมา จึงทำให้บริษัทฯ มีการปรับลดราคาจำหน่ายแป้งสาลีลง
นางแววตา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการป้องกันโรคCOVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในปัจจุบันอย่างเคร่งครัด พร้อมตระหนักถึง ความปลอดภัยของพนักงานในองค์กรทุกภาคส่วน โดยได้ส่งมอบผ้าปิดจมูกให้กับพนักงาน รวมทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing เพื่อให้พนักงานได้ทราบและตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันเฝ้าระวังตนเองและบุคคลใกล้ชิด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้บริโภค ว่าสินค้าที่ผลิตออกมาจากทางบริษัทฯ มีความปลอดภัยและมีมาตราฐานการป้องกันเป็นอย่างดีซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทได้ยึดถือและปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง ตามพันธกิจที่ว่า “เป็นแบบอย่างในการดำเนินธุรกิจตามมาตรฐาน คุณธรรมจริยธรรมและจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทยึดถือและปฎิบัติมาอย่างต่อเนื่อง