นายศรวุฒิ ปิงคลาศัย ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮนด์อัพ เน็ทเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า “HandUp Volunteer คือแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นโดยมีภารกิจหลักเพื่อช่วยจับคู่ผู้เชี่ยวชาญทางภาคธุรกิจที่มีความสามารถเฉพาะทางและอยากช่วยเหลือสังคม เข้ากับองค์กรที่มีเป้าหมายด้านสังคมต่าง ๆ อาทิ มูลนิธิ และธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อช่วยองค์กรเหล่านั้นแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ยังเป็นคอขวดในองค์กรเอง อาทิ ปัญหาการเงิน การบริหารจัดการบุคคล การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาประสิทธิภาพโครงการ เทคโนโลยี และการตลาด
ในช่วงนี้ เราเห็นว่าวิกฤติโควิดกำลังส่งผลกระทบรุนแรงกับธุรกิจในประเทศไทยเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะธุรกิจ SME และพวกเขาต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน เราจึงอยากนำโมเดลของเรามาปรับใช้เพื่อช่วยเหลือธุรกิจเหล่านี้ให้ผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ไปได้ ครั้งนี้เราเลือกจับมือกับบริษัท ดิจิทาซ จำกัด ซึ่งเป็นดิจิทัล เอเจนซี่ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการตลาดดิจิทัล ที่ได้มาช่วยออกแบบโครงการและให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัล โดยโครงการนี้มีชื่อว่า “มือดี SME ดัง” ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อช่วยธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดได้มีการปรับตัวเพื่อให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยจะมีการคัดเลือกธุรกิจที่จะมาเป็นโจทย์ให้กับโครงการ โดยจะคัดเลือกธุรกิจ SME ที่เสนอแผนที่น่าสนใจโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งธุรกิจที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับความช่วยเหลือเป็น 3 ส่วนได้แก่ การช่วยวางกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Digital Marketing Strategy), การแก้ปัญหาการตลาดอย่างสร้างสรรค์ (Creative Solution Initiative), และการทำให้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนนั้นสามารถบรรลุวัตถุประสงค์และถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด (Optimized ROI) ซึ่งเวลาในการทำงานของแต่ละส่วนจะมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละธุรกิจ ซึ่งระยะเวลารวมของธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 8 สัปดาห์”
นายภารุจ ดาวราย กรรมการผู้จัดการ ดิจิทาซ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะดิจิทัล เอเจนซี่ที่มีประสบการณ์ในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลให้กับแบรนด์ระดับโลกมาแล้วมากมาย ผมมีความรู้สึกดีใจและภูมิใจที่สุดที่ได้มาร่วมทำงานกับ HandUp Volunteer เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือธุรกิจ SME ไทยให้ดำเนินต่อไปได้ในช่วงวิกฤตินี้
ในช่วงที่ผ่านมา การใช้อินเตอร์เน็ตของคนไทยในช่วงวิกฤติโควิดเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้สื่อออนไลน์มีความสำคัญมากขึ้นแบบก้าวกระโดด จึงมีผลให้การตลาดดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากกว่าที่เคยเป็น และเมื่อวิถีชีวิตคนเปลี่ยน แบรนด์ก็ต้องสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทัน และไม่เพียงแต่ต้องหา Right Touchpoint เพื่อนำพาสินค้าและบริการไปถึงมือผู้บริโภคให้เร็วที่สุด อีกทั้งยังต้องส่ง Right Message และ Right Moment เพื่อโน้มน้าวใจผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าและบริการของเรา และต้องสร้างประสบการณ์ของผู้บริโภคผ่านการสัมผัสแบรนด์ (Brand experience) ใน Touchpoint ที่เปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตของพวกเขา อีกทั้งแบรนด์ควรจะให้ความสำคัญกับการสร้าง Connected Experience มากกว่าที่เคย เพราะสิ่งนี้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ยืนอยู่ได้ยาว ไม่เพียงเท่านั้น แบรนด์ยังควรคิดถึงการเชื่อมโยงช่องทางที่หลากหลายเข้าด้วยกัน หรือที่เรียกว่า Omni Channel เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากให้กับลูกค้าให้มากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาลูกค้าที่มีอยู่ทำให้พวกเขากลับมาหาแบรนด์เพื่อซื้อซ้ำ
ผมเชื่อในศักยภาพของธุรกิจ SME ไทยและความสามารถของผู้ประกอบการไทย และมั่นใจว่าเราจะสามารถนำ Creative Solution มาช่วยผลักดันธุรกิจ SME ให้เดินหน้าต่อไปได้”
นายศรวุฒิ กล่าวสรุป “เราต้องขอขอบคุณดิจิทาซ ที่มาร่วมกันทำโครงการที่มีความหมายและจะสร้างประโยชน์ให้กับวงการธุรกิจ SME ไทยในครั้งนี้ และเราเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญของดิจิทาซจะช่วยทำให้ SMEs ไทยที่เข้าร่วมโครงการปรับตัวได้ทันท่วงที อีกทั้งยังจะเป็นแบบอย่างให้ SMEs รายอื่น ๆ ในการดำเนินธุรกิจในช่วงวิกฤตินี้ไปได้”
ผู้ประกอบการ SME ที่ประสงค์จะส่งธุรกิจเข้าโครงการ “มือดี SME ดัง” นั้น สามารถสมัครได้ที่ https://bit.ly/FightforSME และติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ Facebook ของ HandUp Volunteer และ Digitas Thailand
โดยรับสมัครตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 และจะประกาศชื่อธุรกิจที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายในวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ทางช่องทาง Facebook ของทั้งสององค์กร