TPOLY รับทรัพย์จากโรงไฟฟ้าปัตตานี ลุยใส่เกียร์ห้าเดินหน้าประมูลงานรัฐ-เอกชน มั่นใจผลงานปี 63 โตทะลุเป้า

พุธ ๒๐ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๑:๐๓
อานิสงส์จากโรงไฟฟ้าชีวมวลปัตตานี กรีน เพาเวอร์ (PTG) โครงการของ TPCH ขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ส่งผล TPOLY เตรียมรับทรัพย์ไปด้วย บิ๊กบอส “ปฐมพล สาวทรัพย์” ลั่นพร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชน เน้นโครงการที่ทำกำไร มั่นใจผลงานปี 63 ยอดขายโตทะลุเป้า

นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) (TPOLY) เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง ยังมีแนวโน้มที่ดี คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog เดิมกว่า 2,000 พันล้านบาท ขณะที่โครงการใหม่ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 63 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯ ยังเดินหน้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชน และอยู่ระหว่างการประมูลงานมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2563 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง

“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการรับงานที่เรามีความเชี่ยวชาญ แต่ต้องยอมรับว่าตลาดรับเหมาก่อสร้างมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก ยิ่งมีสถานการณ์ COVID-19 จะยิ่งกระทบต่ออัตรากำไรของอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าเตรียมจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (Commercial Operation Date: COD) อีก 4 แห่ง โดยข่าวดีล่าสุด โรงไฟฟ้าปัตตานี กรีน เพาเวอร์ เริ่ม COD เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่โรงไฟฟ้าอีก 3 แห่ง จะทยอย COD ได้เกือบทั้งหมดภายในไตรมาส 2/2563 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตตามเป้าที่วางไว้”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPOLY กล่าวอีกว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างก็ตาม แต่ในส่วนของโครงการก่อสร้างของบริษัทฯ จำนวน 21 โครงการทั่วประเทศ ปัจจุบันยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยทุกโครงการยังคงก่อสร้างได้ตามปกติ ซึ่งบริษัทฯ มีมาตรการและระเบียบปฏิบัติที่เข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว

อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาสแรกของปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีรายได้รวม 942.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 777.5 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจำนวน 539.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 178.7 ล้านบาท หรือ 49.5% นอกจากนั้น บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า และรายได้จากการขายสินค้าและบริการ โดยสัดส่วนรายได้รวมของบริษัทฯ มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 57.3% ธุรกิจโรงไฟฟ้า 41.7% ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1.0% รายได้จากการขายสินค้าและบริการ 0.02% โดยมีรายได้อื่นๆ 0.7% แม้ว่างบเฉพาะกิจการรับเหมาก่อสร้างจะมีผลขาดทุนในไตรมาส 1/2563 ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ แต่คาดว่าผลการดำเนินงานทั้งปี จะมีผลกำไรที่สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของอุตสาหกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ
๑๖:๑๘ ทรู คอร์ปอเรชั่น เตรียมเปิดจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่รับปีมะเส็ง ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างมั่นคง
๑๖:๒๕ วัน แบงค็อก เตรียมเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ศักราชใหม่สุดยิ่งใหญ่
๑๖:๐๖ EXIM BANK โชว์ศักยภาพ SFI แห่งแรกได้รับมาตรฐานสากล ISO 14064-1:2018 เดินหน้าบทบาท Green Development Bank
๑๖:๑๙ ซานตาคลอส ฟลายอิ้ง ส่งความสุขในเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๑๖:๔๓ Spacely AI คว้ารางวัลที่สาม ในการแข่งขันนวัตกรรมระดับโลกของ SketchUp
๑๖:๓๒ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทุ่มกว่า 1.6 ล้าน มอบความห่วงใย ร่วมฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังจากน้ำท่วมใหญ่
๑๖:๒๑ NRF เปิดตัว Mini C สาขาใหม่ในสหราชอาณาจักร ตอกย้ำกลยุทธ์ค้าปลีกแบบ Hub and Spoke ยอดขายทะลุเป้า พร้อมกระแสรีวิว 5 ดาวจากลูกค้า
๑๖:๓๘ บางจากฯ ร่วมสร้างสีสัน ส่งต่อสุขภาพดี ชวน เมย์ รัชนก ร่วมแข่งกีฬา Econmass Sport Day 2024
๑๖:๐๐ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เอิ้นหาพี่น้องโค้งสุดท้าย! ชวนมาม่วนซื่นส่งท้ายปี สูดอากาศดีกลางทุ่งดอกไม้บาน ชมงานศิลป์สุดอลัง พร้อมกิจกรรมม่วน ๆ ทั้งครอบครัว 2 สัปดาห์สุดท้าย