นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) (TPOLY) เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง ยังมีแนวโน้มที่ดี คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog เดิมกว่า 2,000 พันล้านบาท ขณะที่โครงการใหม่ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 63 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯ ยังเดินหน้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชน และอยู่ระหว่างการประมูลงานมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2563 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง
“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการรับงานที่เรามีความเชี่ยวชาญ แต่ต้องยอมรับว่าตลาดรับเหมาก่อสร้างมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก ยิ่งมีสถานการณ์ COVID-19 จะยิ่งกระทบต่ออัตรากำไรของอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าเตรียมจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (Commercial Operation Date: COD) อีก 4 แห่ง โดยข่าวดีล่าสุด โรงไฟฟ้าปัตตานี กรีน เพาเวอร์ เริ่ม COD เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่โรงไฟฟ้าอีก 3 แห่ง จะทยอย COD ได้เกือบทั้งหมดภายในไตรมาส 2/2563 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตตามเป้าที่วางไว้”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPOLY กล่าวอีกว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างก็ตาม แต่ในส่วนของโครงการก่อสร้างของบริษัทฯ จำนวน 21 โครงการทั่วประเทศ ปัจจุบันยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยทุกโครงการยังคงก่อสร้างได้ตามปกติ ซึ่งบริษัทฯ มีมาตรการและระเบียบปฏิบัติที่เข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาสแรกของปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีรายได้รวม 942.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 777.5 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจำนวน 539.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 178.7 ล้านบาท หรือ 49.5% นอกจากนั้น บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า และรายได้จากการขายสินค้าและบริการ โดยสัดส่วนรายได้รวมของบริษัทฯ มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 57.3% ธุรกิจโรงไฟฟ้า 41.7% ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1.0% รายได้จากการขายสินค้าและบริการ 0.02% โดยมีรายได้อื่นๆ 0.7% แม้ว่างบเฉพาะกิจการรับเหมาก่อสร้างจะมีผลขาดทุนในไตรมาส 1/2563 ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ แต่คาดว่าผลการดำเนินงานทั้งปี จะมีผลกำไรที่สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของอุตสาหกรรม