ทั้งนี้ โครงการ “อสม.ช่วยชาติ ต้านโควิด” ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 โดยมี วารี พลไพศาล ประธานมูลนิธิเฮอริเทจ (ประเทศไทย) ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงฤดี ลาศุขะ ชมรม Nordic Walking ประเทศไทย (เชียงใหม่), ผศ.ดร.เพลินพิศ ฐานิวัฒนานนท์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, อาจารย์ศิลปชัย ฝั้นพะยอม วิทยาลัยการพยาบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก, พว.สมฤดี ชัชเวช พยาบาลวิชาชีพชำนาญการด้านการควบคุมโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.พญ.จันทรา เหล่าถาวร ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยค้นคว้าและพัฒนายา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาเป็นที่ปรึกษาโครงการ
โครงการ “อสม.ช่วยชาติ ต้านโควิด” ได้ทำการเปิดรับการบริจาคเงินสมทบทุนบริจาคชุดป้องกัน ในราคาชุดละ 100 บาท ซึ่งประกอบไปด้วย 6 สิ่งจำเป็น ได้แก่ 1. เสื้อกันฝนป้องกันสารคัดหลั่ง 2 ตัว 2. หน้ากากผ้าซักน้ำได้ 3. Face Shield 4. สเปรย์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 100 มิลลิลิตร 5. อาหารสุขภาพ ถั่ว 6 ซอง นมอัลมอนด์ 2 กล่อง และน้ำ 1 ขวด และ 6. ถุงผ้ารักษ์โลก โดยได้ทำการส่งมอบชุดป้องกันจำนวนทั้งหมด 2,822 ชุด ไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข ผ่านศูนย์กลางตัวแทนในหลายจังหวัด อาทิ
อาสาสมัครที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่ากว้าง จังหวัดเชียงใหม่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ตำบลท่ากว้าง จังหวัดเชียงใหม่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านท่าต้นกวาว จังหวัดเชียงใหม่วิทยาลัยการพยาบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคลอง จังหวัดพิษณุโลกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพลายชุมพล จังหวัดพิษณุโลกโรงพยาบาลน่าน จังหวัดน่านสมาคมอาสาสาธารณสุข จังหวัดน่านอาสาสมัครสาธารณสุข จังหวัดพิจิตรอาสาสมัครภูเก็ต ตำบลค่ายศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีสุนทร จังหวัดภูเก็ตโรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้ามพร้า จังหวัดอุบลราชธานีสำนักงานสาธารณสุขอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานีโรงพยาบาลสงขลา จังหวัดสงขลาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งใหญ่ จังหวัดสงขลาโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลาอาสาสมัครสาธารณสุข จังหวัดปัตตานี
ทั้งนี้ โครงการคงจะประสบความสำเร็จได้ยาก หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มองเห็นความสำคัญของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านร่วมกัน ซึ่งการร่วมมือในการจัดตั้ง โครงการ “อสม.ช่วยชาติ ต้านโควิด” ในครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างอันดีที่สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และบุคลากรทุกภาคส่วน ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยที่ไม่เคยจางหาย ยิ่งในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ด้วยแล้ว หากพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน เชื่อเลยว่าประเทศไทยจะสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน