หลังจากเซ็นสัญญากับ วัน แชมเปียนชิพ สิทธิชัย ก็ถูกจับตามองทันที ในฐานะแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งหลายสมัยตัวแทนประเทศไทย มีชื่อติดลมบนเป็นตัวท็อปของรุ่น 70 กิโลกรัมระดับโลกมาหลายปีต่อเนื่อง
หากไล่เรียงชื่อนักชกคิกบ็อกซิ่งชื่อดังในรุ่นเดียวกัน สิทธิชัย เคยผ่านมาแล้วหลายคนทั้ง มารัต กริกอเรียน (อาร์เมเนีย-เบลเยียม), โรบิน แวน โรสมาเล็น (ดัตช์), ดาวิต คีเรีย (จอร์เจีย), โจไน ริสโก (สเปน), เมอร์เทล เกรินฮาร์ต (ดัตช์) แอนดี ซาวเวอร์ (ดัตช์) , เอ็นริโก เคห์ล (เยอรมัน) รวมถึงกับนักมวยไทยด้วยกันอย่าง ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ
ส่วนคนที่ สิทธิชัย หมายตาอย่าง "จอร์จิโอ เปโตรเซียน" กลับไม่เคยได้เจอกันสักที มีอันต้องแคล้วคลาดกันครั้งแล้วครั้งเล่า
"นักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งๆ ผมก็ผ่านมาเยอะนะ บางคนผมเจอมาหลายครั้งจนผมเบื่อ (หัวเราะ) คือมันรู้ทางกันหมดแล้ว แต่กับ เปโตรเซียน ผมยังไม่เคยได้ชกกับเขาเลย เหมือนผมตามเขาไปทุกที่ เขาก็หนีผมทุกที่"
"ตอนที่ผมยังไม่มีชื่อเสียง ไปชกบ้านเขาที่อิตาลี ผมอยู่คู่สองเป็นคู่เปิดรายการ เขาเป็นคู่เอก โอ้โห ผมมองเขาโคตรเก่ง สมองดี หลักเหลี่ยมดีทุกอย่าง"
"เขาเป็นเหมือนไอดอลผม ผมพยายามเทียบตัวเองกับเขา อยากเก่งเหมือนเขา และก็อยากจะชกกับเขา อยากจะเอาชนะเขาให้ได้ เขาเป็นมวยที่อาวุธคมทุกอย่าง สายตาดี หมัดแน่น และแม่นยำ เมื่อก่อนผมกลัวเขานะ แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว ผมก็สั่งสมประสบการณ์มาเยอะ และผมชกคิกบ็อกซิ่งตลอด"
ก่อนที่ สิทธิชัย จะเข้ามาอยู่ในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ เขาห่างหายจากสังเวียนไปนานถึง 7 เดือน หากจะเปิดศึกกับตัวพ่ออย่าง เปโตรเซียน ในทันที นักชกยอดฝีมืออย่าง สิทธิชัย ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แต่เขาอยากจะรื้อฟอร์มขึ้นมาสักหน่อย จะได้สมน้ำสมเนื้อ สมศักดิ์ศรี และเป็นประโยชน์ต่อความมันของแฟนๆ มากที่สุด
"ถ้าชกคิกบ็อกซิ่งผมสู้ได้หมดทุกคนนะ แต่ถ้าผมเลือกได้ก็อยากจะขอเวลาสักไฟต์ สองไฟต์ ให้ปรับตัวในเรื่องต่างๆ ทั้ง เวที กติกา และการชั่งน้ำหนักของ ONE เป็นแบบไหน ตอนนี้ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเลยครับ"
"อีกอย่างพอมาเจอโควิด ทำให้ยิมปิด ช่วงเดือนสองเดือนนี้ผมไม่ได้ซ้อมเลย อยู่บ้านเลี้ยงลูกครับ (หัวเราะ)"
อย่างไรก็ตาม สิทธิชัย รู้ตัวเองดีกว่า เขาคือความหวังของคนไทย และมีแฟนๆ ที่ตั้งความหวังกับเขาไว้สูงตั้งแต่รู้ว่าเขามาอยู่กับ วัน แชมเปียนชิพ จนตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นความกดดัน
"พอผมเซ็นสัญญาเข้ามาอยู่ ONE ปุ๊บ ก็มีคนจ้องให้ผมเจอกับ เปโตรเซียน เลย การที่มีคนตั้งความหวังกับเราสูง มันก็สร้างความกดดันกับเราเยอะนะครับ คือความกดดันมันเป็นเรื่องปกติในตอนชกมวยอยู่แล้ว แต่อันนี้ยังไม่ได้ชกเลย ก็กดดันแล้ว (หัวเราะ)"
"การได้มาอยู่กับ ONE ผมรู้สึกดีใจนะ ผมวาดภาพไว้ อยากไปยืนบนเวที อยากเรียนรู้เร็วๆ ว่าที่นี่เป็นยังไง ที่สำคัญคือผมจะได้มีโอกาสมาชกที่ไทย ญาติพี่น้อง แฟนคลับผมจะได้มีโอกาสมาดูผมชกที่สนามด้วย"
ไม่เฉพาะ สิทธิชัย ที่อยากจะได้โอกาสกลับขึ้นสังเวียนเร็วๆ เชื่อว่าแฟนๆ วัน แชมเปียนชิพ เองก็เร่งวันเร่งคืน อยากให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ซะวันนี้พรุ่งนี้เลย!